หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/137

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐๒

 ตั้งแต่นั้นมามหากระษัตริย์เมืองพิงเชียงใหม่สาบสูญสุดเสี้ยงไปแล้ว เช่น เจ้าพลศึกซ้ายไชยสงคราม ได้เสวยเมืองน่านแล้ว ได้ไปเปนพระเจ้าเมืองพิงเชียงใหม่วันนั้นได้ ๔๑ เช่นท้าวก่อนแล ฯ

 เจ้าอุ่นเมืองตนเปนน้องได้เสวยเมืองน่านแทนพี่ตน ก็ในปีดับเม้า จุลศักราชได้ ๙๗๗ ตัวนั้นแล ท่านเสวยเมืองได้ ๙ ปี คือเถิงปีกาไก๊นั้น จุลศักราชได้ ๙๘๕ ตัว เดือน ๑๒ ขึ้น ๑๕ ค่ำเพ็งเม็งวันศุกร์ ท่านก็ฟื้นม่านหนีลงไปเมืองใต้พุ้นแล ปีกาไก๊ เดือน ๑๒ แรม กวาดเอากองทหารเมืองหงษาแล ฯ

 เถิงปีกาบไจ๊ จุลศักราช ๙๘๖ ตัว เดือน ๑๐ ขึ้น ๕ ค่ำ วันอังคารยามพลันรุ่งจวนมาหลัง พวกมาคุมเอาเมืองไว้ท่าอุ่นเมืองเจ้าฟ้าไล่ข้าหนีจากเมืองน่านไปอยู่เมืองแพร่ เดือน ๑๒ ขึ้น ๘ ค่ำวันอังคาร เจ้าอุ่นเมืองลุกเมืองล้านช้างมาฮอดตั้งทัพอยู่วัดอุทยานน้อย เดือน ๓ ขึ้น ๑๐ ค่ำวันพฤหัศบดียามแถจักใกล้สู่เที่ยง เจ้าอุ่นเมืองยกเข้านั่งเมืองน่านแล

 เถิงเดือนยี่เพ็ง เจ้าฟ้าสุทโธแต่งพลศึกมารุมเอาเมืองน่านเจ้าอุ่นเมืองบ่อาจจักต่อรี้พลท้าวตนใหญ่ได้ ก็หนีไปเมืองล้านช้างพุ้นแล ชาวบ้านชาวเมืองก็แตกตื่นหนีเปนอันมาก พระราชครูเจ้าแช่แห้งแลครูบาเจ้าวัดศรีบุญเรืองแลศิษย์โยมทั้งหลาย ก็พากันหนีไปทางบ่อหว้าหั้นแล กองทัพม่านครั้นมาฮอดเถิงเมืองน่านแล้ว ก็กวาดเอาชาวน่านเมือเมืองหงษาหั้นแล ชาวน่านลวดฉิบหายมากนักหั้นแล เช่น เจ้าอุ่นเมืองได้หนีเสียเมืองน่านไปวันนั้น ได้ ๔๒ เช่นท้าวแล ท่านได้เสวยเมืองได้ ๙ ปี ก็ได้หนีเสียเมืองไปวันนั้นแล ฯ