หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/139

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐๔

มวล ตั้งแต่ปีดับเม้ามาฮอดปีเบิกยี่ได้ ๑๔ ปีนั้น ท่านก็กระทำสร้างแปงบ่ได้หยุดยั้งตราบบริบวรณ์หั้นแล ฯ

 ในปีเบิกยี่จุลศักราชได้ ๑๐๐๐ ตัว เดือน ๙ ปฐมขึ้น ๒ ค่ำ ไทยลวงเม้ายามกองงาย เจ้าหลวงน่านคือ เจ้าพระยาเมืองนครน่านก็จุติเสี้ยงกรรมวันนั้นแล ในปีนั้น เดือน ๓ ขึ้น ๖ ค่ำ จิงได้ชักลากสริรออกไปส่งสักการ กระทำบุญให้ท่าน เถิงวัน ๗ ค่ำ ถวายพระเพลิงหั้นแล ในปีนั้นสิ่งเดียว เดือนยี่เพ็งลาวเผ่าบ่ม้างเสียแล ได้ ๔๓ เช่น ท้าวก่อนแล ฯ

 เจ้าพระยาเชียงราย ได้มากินเมืองน่านแทนในปีเบิกยี่ จุลศักราชได้ ๑๐๐๐ ตัว นั้นแล ท่านได้เสวยเมือง ๑๑ ปี คือ เถิงปีเบิกไจ๊ จุลศักราชได้ ๑๐๑๐ ตัว เดือนยี่ขึ้น ๑๒ วันอังคารยามราตรี พระยาหลวงน่านคือพระยาเชียงราย ท่านก็เสี้ยงแก่กรรมครั้งนั้นแล ได้ ๔๔ เช่นท้าวก่อนแล ฯ

 เมื่อนั้นมหาธรรมเจ้าจิงให้พระยาเมืองเชียงของสามคนพี่น้องมากินเมืองน่าน คนพี่ชื่อว่า เจ้าพระยาแหลมุม คนน้องถ้วน ๒ ชื่อ เจ้าพระยายอดใจ น้องคนถ้วน ๓ ชื่อว่า เจ้าพระยาพระเมืองราชาแล เจ้าพระยาแหลมุมตนพี่ได้มากินเมืองน่านปีกัดเป๋า จุลศักราชได้ ๑๐๑๑ ตัว เดือน ๘ เพ็งเม็งวันอาทิตย์ ไทยกาเล้า ยามแถจักใกล้เที่ยงฤกษ์กฎได้ ๑๔ ตัว ท่านก็เข้ามาสถิตย์อยู่โรงหลวงเสวยเมืองน่านวันนั้นแล ท่านอยู่เสวยนานได้ ๑๔ ปีปาย ๗ เดือน คือ เถิงปีเต่ายี่ จุลศักราชได้ ๑๐๒๔ ตัว เดือน ๓ ลง ๓ ค่ำ พระยาใต้ยกพลศึกมากุมเอาเมือง