หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/159

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๒๔

บ่อาจจักต่อได้ เถิงเดือน ๗ ลง ๖ ค่ำวันจันทร์ยามเช้า เมืองเชียงแสนก็แตกถอยครอบครัวออกหนีขึ้นเมือเมืองภูเพียงหั้น แล ดังเจ้ามโนท่านก็ได้ยกเอาครอบครัวไพร่ไทยลูกเมียหนีจากเชียงแสน ไปตั้งอยู่เมืองภูเพียงพุ้นกับชาวเมืองเชียงแสนหั้น เถิงจุลศักราชได้ ๑๑๔๑ ตัวปีกาไก๊ เดือน ๕ ขึ้น ๔ ค่ำ พระยา สวรรคโลก พระยาลำพูนก็ยกกองทัพเข้ามาเถิงงั่วที่ นั้น เมื่อนั้นพระยา สวรรคโลกก็ว่าจักกวาดเอาครัวเมืองน่านลงไปไว้เมืองใต้นับเสี้ยงว่าอันเจ้ามโนแลพระยานครก็ พร้อมกันฟื้นฟันพระยาสวรรคโลก พระยาสวรรค โลกก็ด้านพ่ายหนีไปหั้นแล แลท่านอยู่ที่นั้นได้พรรษา ๑ ครั้นว่าออกพรรษาแล้วท่านก็ขับหื้อเอาครอบครัวไพร่ไทยแลชาวเมืองเชียงแสนทั้งมวลลงมาตั้ง อยู่เชียงแสนหื้อเปนบ้านเปนเมืองเหมือนเก่าหั้นแล ยามนั้นอาชญาเจ้ามโนท่านก็ยกเอาครอบครัวลงมาอยู่เชียงแสนในเวียง หั้นกับด้วยชาวบ้านชาวเมืองนั้นหั้นแล

 อยู่มาเถิงจุลศักราช ๑๑๔๔ ตัวปีเต่ายี่ เดือน ๓ ขึ้น ๕ ค่ำม่านก็หื้ออาชญาเจ้ามโนยกเอาครอบครัวไพร่ไทยชาวน่าน ชาวเทิงทั้งมวลลงมาตั้งอยู่ในเมืองเทิงที่นั้นได้ ๓ ปี เถิงปีกาบยี่จุลศักราชได้ ๑๑๔๖ ตัวเดือน ๘ ลง ๒ ค่ำเม็งวันพฤหัศบดียามเที่ยงคืน เจ้ามโนท่านก็เถิงแก่อสัญกรรมตายไปวันนั้นแล เถิงเดือน ๙ ขึ้น ๔ ค่ำก็กระทำส่งสักการท่านนั้นแล

 ในศักราชนั้นสิ่งเดียวเจ้ามวยหวานเชียงแสนก็ใช้มาเอาเจ้าอัตถวรปัญโญตนเปนบุตรเจ้าสุทธะ เปนหลานเจ้ามโนที่ เมืองเทิงนั้นขึ้นเมือเมืองเชียงแสนที่นั้นแล้ว ก็ปงเมืองน่านทั้งมวลหื้อเจ้าอัตถวรปัญโญได้เปนพระยาน่านหั้นแล ยามนั้นทีนั้น เจ้ามวยหวานเชียงแสนจิงใช้แสนไชยปการขึ้นเมือทูลมหากระษัตริย์เจ้าเมืองอังวะหั้นแล เมื่อนั้นมหากระษัตริย์เจ้าอังวะจิงมีอามิศต่อจ่าสวนลงมาว่าหื้อเจ้าอัตถวรปัญโญตนหลานหื้อได้เปนพระยากินเมืองน่านหั้นแล เจ้าอัตถวรปัญโญได้รับอามิศต่อจ่าสวนได้กินเมืองน่านแล้ว ก็อยู่เมืองเทิงที่นั้นก่อนแล