หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/160

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๒๕

 ในเมื่อศักราชได้ ๑๑๔๕ ตัวปีกาเม้านั้น เมืองน่านเราก็เปนอันเปล่าห่างสูญเสีย ก็บ่มีท้าวพระยาผู้รักษาแลรั้งไพร่ไทยทั้งหลายอันเกิดค้างอยู่กับบ้านกับเมืองนั้น ก็พากันลี้ซ่อนอยู่ในป่าเถื่อนฮอมห้วยราวเขาหั้นแล

 ดังฝ่ายเจ้าตนมีอายุอันตกลงไปเมืองใต้นั้น มหากระษัตริย์เจ้าเมืองใต้ก็ตั้งเจ้าหนานจันทปโชตตนเปนลูกเจ้าอริยวงษ์นั้น หื้อเปนเจ้าพระยามงคลวรยศ แล้วก็หื้อขึ้นมาเปนเจ้าเสวยเมืองน่านในจุลศักราชได้ ๑๑๔๕ ตัวปีกาเม้า เดือน ๕ ขึ้นค่ำ ๑ วันพฤหัศบดีท่านก็ขึ้นมาตั้งอยู่บ้านท่าปลาที่นั้นหั้นแล ฯ

 อยู่มาเถิงจุลศักราชได้ ๑๑๔๗ ตัวปีดับไซ้ มหากระษัตริย์เจ้าเมืองอังวะก็ยกเอามากองทัพใหญ่ลงมาว่าจักยุทธกรรมเอาเมืองกรุงศรีอยุทธยา ก็ลงมาทางเมาะตมะทวาย จึงแต่งหื้อพะกามมังดีเปนโปโชก มีกำลังหมื่นหนึ่งลงมาทางเมืองลานนาไทยมาฮอดเมืองเชียงแสน เดือน ๔ ขึ้น ๑๑ ค่ำวันเสาร์ ก็ยกกองทัพออกจากเชียงแสนมาเถิงเมืองเทิงมาขับเอากำลังเมืองแล้วก็มาเถิงเมืองน่าน เมืองแพร่ ฝ่ายเมืองเชียงใหม่นครก็พร้อมกันเปนอันเดียว แลยามนั้น พระยาน่านพระยาแพร่บ่สู้บ่รบ ก็ลวดน้อมตัวเปนข้าม่าน เมืองเถินพร้อมเปนข้าม่านเสียหั้นแลดังเชียงใหม่แลนครบ่น้อมม่าน ก็ยกเอากองทัพเข้ามาแวดวังขังเอาหั้นแล ยามนั้นกองทัพมหากระษัตริย์เจ้าเมืองอังวะก็มาทางเมาะตมะ ทวายนั้นก็บ่อาจจักต่อเมืองอโยทธยาได้ ก็ด้านพ่ายหนีมาคืนเมืองอังวะดังเก่าแล