หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/166

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๓๑

มารับประทานแลเทศนาธรรม ท่านก็พร้อมด้วยเจ้านายไพร่ไทยทั้งหลายใส่บาตรกินทานในวันเดือน ๓ เพ็งเม็งวัน พุฒนั้นยามเที่ยงวัน จิงจักชักรูปหงษ์คาบเกิ้งขึ้นกางยังมหาธาตุเจ้าแล้วบริบวรณ์หั้นแล ในวันเดือน ๓ เพ็งในเดือนนั้นก็ได้ พุทธาภิเศกอบรมยังมหาธาตุเจ้าหั้นแล เถิงวันเดือน ๓ ขึ้นค่ำ ๑ ท่านก็ซ้ำใส่บาตรกินทานแถมหั้นแล ในวันเดือน ๓ เพ็งนั้น ยามเมื่อเอาเกิ้งกางนั้นเทพทิพเจ้าก็หื้อหันยังอัจฉริยอัศจรรย์มี ๗ ประการก็ปรากฎมียามนั้น อนึ่งก็ได้หันคิชฌราชาคือว่า พระยาแร้ง ๔ ตัวก็มาแอบร่อนอยู่ที่มหาธาตุเจ้าหั้นแล หื้อคนทั้งหลายได้รู้หันสู่คนสู่คนหั้นแล อนึ่งคือได้ยินเสียงเหมือนดัง เสียงนกยูงบินมาแต่ทิศก้ำใต้นั้น แต่เล็งดูแท้พอยบ่หัน อนึ่งคือได้หันยังงูตัว ๑ ตามแห่งพระยาเจ้าเข้าไปที่ข่วงบริเวณแห่งมหาธาตุเจ้าแล้วก็กลับหายไปหั้นแล อนึ่งในขณะเมื่อชักรูปหงษ์คาบเกิ้งขึ้นนั้น อันว่ากลีบฟ้าแลเมฆทั้งหลายก็กลับหายไปเสี้ยง ใต้พื้นฟ้าอากาศภายบนก็ใสสว่างบริสุทธิมากนักยามนั้นแล อนึ่งเล่าดาวยังฟ้าก็ปรากฎหื้อหันแก่คนทั้งหลายเมื่อเที่ยงวันนั้นแล อนึ่งฝนก็ตกลงมาหันเม็ดอยู่แท้เหมือนจักถูกตนคนทั้งหลายเหมือนจักขยุ้มถือเอาได้นั้นแท้ ก็พอยบ่จับถูกตนคนทั้งหลายสักคน ตกลงมาบ่ขาดสายนานได้ ๒ วันจิงหายแล มี ๖ ประการแล เจ้าหลวงอัตถวรปัญโญครั้นว่าท่านได้หันอัจฉริยทั้ง หลายอันบ่ห่อนได้หันในกาลเมื่อก่อนสักเทือะสันนั้น ท่านก็บังเกิดปิติโสมนัศชมชื่นยินดีหาประมาณบ่ได้ มากนักหั้นแล ครั้นว่าแล้วบริบวรณ์แล้ว ท่านก็มีราชอาชญานิมนต์ยังมหาครูบาเจ้าวัดลองหาดตนชื่อว่าอริยวงษามาอยู่เมตตาปฏิบัติวัดหลวงภูเพียงแช่แห้งที่นั้นหั้นแล ๚