หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/19

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
(๑๒)

เปนไปเบื้องน่าบ่อน้อย ๒๕๔๕ พรรษา ปลาย ๑๑ เดือน กับเศษอิก ๗ วัน รวมพระพุทธสาสนกาลทั้ง ๓ ส่วนมาประมวญณที่อันเดียวกัน จึงบรรจบครบถ้วน ๕๐๐๐ พระวะษาแล เดิมเมื่อแรกก่อสร้างองค์พระเจ้ามีชนมพรรษาได้ ๗๔ ปี เมื่อเสร็จแล้วบริบูรณ์ฉลองทานชนมพรรษาได้ ๘๑ ปีแล

ครั้นวันที่ ๓๐ มกราคม ศก ๑๒๗ พ.ศ. ๒๔๕๑ ตรงกับวันเสาร์ไทยกดยี่ เดือน ๕ ขึ้น ๙ ค่ำ จุลศักราชได้ ๑๒๗๐ ปีเบิกสัน ๑ หมาย มีพระราชศรัทธา พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ พระเจ้านครน่าน ประกอบด้วยพระราชศรัทธาในการกุศล จึงมีพระอะวะจะนะพระเจดีย์แช่แห้งน้อย อันมหาราชศรัทธา พระยามหาวงษาธิราช เจ้านครน่านองค์ถ้วน ๕ หากปฏิสังขรณ์ไว้ นับตั้งแต่วันศุกรไทยกดสี เดือน ๙ ลง ๑๑ ค่ำ ปีระวายสง้า จุลศักราช ๑๒๐๘ ตัวนั้น นานได้ ๖๓ ปี ก็ชำรุดโบถพังลงนานได้หลายปี แล้วพระเจ้าก็มีพระไทยเหลี้ยมใสยิ่งนัก ๒ องค์พระเจ้าน่าน ก็บังเกิดด้วยพระราชศรัทธาอันยศยิ่ง เพื่อจะปฏิสังขรณ์พระเจดีย์เจ้าดวงนี้ขึ้นอิก จึงมีพระบัญชาสั่งเหนือเกล้าให้เจ้าขุนในหอคำทั้งหลาย มีเจ้าราชดนัย ผู้สำเร็จราชการหอคำ เปนต้น ได้เรียกเอาตัวน้อยยอด คนเมืองลำพูน ซึ่งได้มามีภรรยาอยู่บ้านภูมินทร์นครน่านมาแล้ว จึงสั่งให้น้อยยอดได้เปนสล่าก่อสร้างพระเจดีย์นี้ ให้มีรูปเหมือนอย่างรูปมหาเจดีย์พระธาตุทโด่งเจ้านั้น น้อยยอดก็กราบทูลรับกระทำตามพระราชประสงค์ขององค์พระเจ้าทุกประการแล้ว พระเจ้าฯ ก็พระราชทานค่าจ้างให้แก่น้อยยอดเปนเงินตราสยาม ๓๐๐๐ บาท แต่สิ่งของทั้งหลาย