หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/219

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๘๔

 อนึ่งด้วยพระวิหารหลวงภูมินทราชากลางเวียงนครเมืองน่าน อันท่านได้ก่อแรกตั้งต้นปลูกแปงสร้างสามาตั้งแต่ศักราชได้ ๑๒๒๙ ตัว ปีเมิงเม้าเดือน ๖ ขึ้นค่ำ ๑ เม็งวันศุกร ไทยดับเม้า ฤกษ์ได้ ๒๕ ตัวชื่อปุพพภัทร ตั้งต้นสร้างแต่นั้นมาเถิงนานได้ ๘ ปี มาเถิงจุลศักราชได้ ๑๑๓๖ ตัว ปีกาบเสร็จนี้ก็เปนที่สำเร็จบริบวรณ์หั้นแล

 ในศักราชนั้นสิ่งเดียวเดือนยี่ ท่านได้มีอาชญาปกเตีนแก่หน่อขัติยวงษา ท้าวพระยาเสนาอามาตย์ไพร่บ้านพลเมืองทั่วจังหวัดนครเมืองน่านทั้งมวล ให้ตกแต่งสร้างแปงสรรพเยื่องเครื่องครัวทานทั้งหลายพร้อมสู่อัน หัวเมืองต่างประเทศทั้งหลาย คือเมืองนคร,ลำพูน, เชียงใหม่, พยาว, เชียงราย, เมืองหลวงพระบาง ก็ได้แต่งใช้นำเอายังอักขรแลคาถาไปแผ่พระกุศลสู่หัวเมืองหั้นแล

 ครั้นเถิงเดือน ๕ นั้น ท่านก็หื้อสร้างแปงมหามณฑปหลังใหญ่แปงเปนจตุรมุข ๔ ด้าน มุงด้วยเสตวัตถาผ้าขาวเทศที่ท้องข่วงสนามหลวงเหมือนแต่ก่อนหั้นแล้ว ครั้นเถิงณวันเดือน ๖ ขึ้นค่ำ ๑ ก็กระทำพุทธาภิเศกเบิกบายฉลองธรรม กระทำบุญหื้อทานฟังธรรมตั้งแต่วันนั้น ไปตราบเท่าเถิงเดือน ๖ ขึ้น ๘ ค่ำ หื้อแล้วหั้นเปนห้อง ๑ ก่อนแล ตั้งวัน ๙ ค่ำเถิงวัน ๑๒ ค่ำฟังฝนแสนห่า แลเถิงวัน ๑๓ ค่ำ วัน ๑๔ ค่ำ หัวเมืองแลน่าบ้านทั้งหลายก็แห่เอาด้วยทานแลบอกไฟเข้าไป ปทักษิณแวดวัดภูมินทร์ คือตั้งฉลองวัดหลวงภูมินทราชาทั่ว เมืองทั้งหลายแลน่าบ้านทั้งมวลพร้อมกันปทักษิณแล้ว ก็แห่นำเอาพระกุศลเข้าไปถวายสมเด็จเจ้านครน่านที่ตำหนักท้องข่วงสนามสู่น่าบ้านแลหัวเมืองหั้นแล