หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/227

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๙๒

 ตราบเถิงวัน ๑๔ ค่ำ ในวัน ๑๕ ค่ำเพ็งนั้น ก็กระทำพุทธาภิเศกฉลองยังพระอุโบสถวัดช่างคำ แลฟังพุทธาภิเศก ๖ ผูก เถิงวันเดือนยี่ลงค่ำ ๑ ก็เปนที่เสร็จแล้วบริบวรณ์หั้นแล ท่านฉลองทานธรรมแลฉลองอุโบสถในครั้งนี้ ก็เปนมหาสมัยการมหาพอยอันใหญ่หนึ่งแล ท่านทานครั้งนี้เปนถ้วน ๗ แล ท่านสร้างธรรมในครั้งนี้รวมเปนกับมี ๓๘ กับนับเปนผูกมี ๒๙๒ ผูกแล ฯ

 เจ้าอนันตวรฤทธิเดช กุลเชษฐมหันต์ ไชยนันทบุรมหาราชวงษาธิบดี เจ้านครเมืองน่าน ยามเมื่อท่านได้เปนเจ้ารับสัญญาบัตรแต่แรกหัวทีวันนั้น ท่านได้เปนเจ้าพระพิไชยราชาก่อน แล้วก็ได้เปนพระยารัตนหัวเมืองแก้วเปนถ้วน ๒ บ่นานเท่าใดก็ได้เปนเจ้าพระยาบุรีรัตนแล้วบ่นานเท่าใดก็ได้เปนเจ้าพระยามงคลวรยศเจ้าพระยาหลวงน่าน แล้วอยู่มาบ่นานเท่าใด ถึงจุลศักราช ๑๒๑๘ ท่านก็ได้เปนเจ้าอนันตวรฤทธิเดชฯ เจ้านครเมืองน่านที่นี้เปนครั้งที่ ๕ แลยาม เมื่อท่านได้เสวยราชสมบัติเป็นเจ้าพระยาน่านนั้นอายุท่านได้ ๔๒ ปีแล เมื่อท่านได้เปนเจ้าอนันต์ฯ นั้นอายุท่านได้ ๕๐ ปีแล ท่านได้เสวยราชสมบัติแล้วดังพุทธุปบาทสาสนาแลบ้านเมืองก็รุ่งเรืองเจริญยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนนั้นแล

 ภรรยาแห่งท่านนางที่ ๑ ชื่อว่าแม่เจ้าสุนันทา เกิดลูกได้ราชบุตร ๔ คน บุตรหญิง ๒ บุตรชายที่ ๑ ชื่อเจ้าหนานมหาพรหม ตนนี้ได้เปนเจ้าพระยามหาอุปราชาหอน่า แลบ่นานเท่าใดท่านก็ถึงแก่ อสัญกรรมไปแล บุตรชายที่ ๒ ชื่อเจ้าสุยะ ตนนี้ได้เปน เจ้าพระยาราชวงษา แล้วบ่นานเท่าใดก็ได้เปนเจ้ามหาอุปราชาหอน่าแทนพี่แห่งตน