หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/231

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๙๖

นันทเภรีพันสอาด แต่งรูปเทวบุตร ๓๒ ตนไปก่อนน่าแทนแห่เอาศพพระเจ้าฟ้าไปสู่ปราสาทพระเมรุหลวงวันนั้นแล แล้วก็ตั้งเขาอันม่วนมโทศพอันใหญ่ ฝูงประชาไพร่สนุกใจ กระทำบุญหื้อทานไปบ่หื้อขาดหยาดน้ำอุทิศส่วนบุญ คือว่ามหาบังสกุลเปนต้นหั้นแล

 ถึงวันเดือน ๘ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ก็ได้พร้อมกันเชิญเอาบรมศพท่านไปถวายพระเพลิงวันนั้นแล

 ถึงวันเดือน ๘ ลง ๑ ค่ำนั้น หมายอาญาตนเปนเจ้ามหาอุปราชาสุวรรณฝ่ายน่าหอคำเปนเค้าแลตนเปนเจ้าราชวงษาเปนประธาน แลหน่อขัติยวงษาเสนาอามาตย์ทั้งหลายก็พร้อมกันอังคาตราธนาเอายังมหาอัฐิเจ้า เสด็จลงจากพระเมรุแล้วก็สงเสพด้วยดุริยดนตรีแห่นำเข้ามาเสี้ยงหื้อสถิตย์อยู่ในวิหารหลวงช่างคำหั้นก่อนแล้ว ก็กระทำบังสกุลพระอัฐิเจ้าทำบุญหื้อทานอยู่ในที่นั้น

 ครั้นถึงเดือน ๘ ลง ๓ ค่ำ ก็พร้อมราธนาเอาพระมหาอัฐิเจ้าขึ้นสถิตย์อยู่กู่ในข่วงพระธาตุเจ้าช่างคำที่ฝากก้ำวันตกแจ่งเหนือหั้นแล

 ในจุลศักราชนั้นสิ่งเดียว เดือน ๓ ลง ๙ ค่ำนั้น เจ้ามหาอุปราชาหอน่า ท่านก็ได้เสด็จลงไปทูลเกล้ามหากระษัตริย์ในกรุงเทพฯ ถวายเครื่องราชบรรณาการหั้นแล

 เมื่อนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้เจ้ามหาอุปราชาหอน่า ตนเปนโอรสบุตรเจ้าอนันต์ฯ นั้นหื้อเปน เจ้านครเมืองน่าน ปรากฎทั้งพระนามว่า เจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช กุลเชษฐมหันต์ ไชยนันทบุร