หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/62

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๗

 เมื่อนั้นเจ้าพระยาขุนทึงท่านก็พร้อมกับด้วยเสนาอำมาตย์แห่งตนปลงเมืองเงินยังเชียงแสนนั้นให้น้องแห่งตน ชื่อเจ้าขุนเลงกว่านั้นให้อยู่เสวยนั้นแล ส่วนเจ้าพระยาขุนทึงเจ้าก็พาเอาอรรคมเหษีเทวีแลเสนาอำมาตย์ทั้งหลายแล ไพร่พลคนเมืองตามสมควรแล้ว ก็ไปอยู่เสวยราชสมบัติในเมืองทิพที่นั้นแล้ว เจ้าเรียกชื่อขึ้นตามเทพนิมิตรว่า เวียงเชียงเรือง ว่าดังนั้นแล ครั้นเจ้าขุนทึงท่านอยู่เสวยราชสมบัติในเวียงเชียงเรืองที่นั้น ก็ฦๅชาปรากฎทั่วไปในสกลชมพูทวีปทั้งหลายทั้งปวง รวดได้เปนจักรราชปราบชมพูทวีป ท้าวพระยามหากระษัตริย์ทั้งหลายต่างตนก็ต่างพา กันนำมายังเครื่องราชบรรณาการน้อมเข้ามาสู่สมภารท่านสิ้นทั้งนั้นแล ใช่แต่เท่านั้น "สัพ์เพสัต์ตา" อันว่าสัตวป่า ทั้งหลายทั้งปวง ก็บอกกล่าวร้องเรียกกันมาตามภาษาของเขาว่าลูกหลานเราได้เปนเจ้าเปนใหญ่ปราบปถพีแล้ว แลว่าฉันนั้นแล้วก็พากันเข้ามาสู่บ้านสู่เมืองมากนักนั้นแล ด้วยท้าวพระยาทั้งหลายซึ่งนำเอามายังเครื่องบรรณาการ มาถวายเปนข้าสู่สมภารแห่งเจ้าขุนทึงนั้น ส่วนชาวเมืองเชียงเรืองทั้งปวง ก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนด้วยอันต้มเข้าหุงแกง เลี้ยงแขกบ้านแขกเมือง ก็เท่าแต่ได้ให้ได้รับประทานเข้าแลอาหารอันบังเกิดมีในหม้อทอง อันเปนของทิพแห่งพระยาเจ้าขุนทึงนั้นสิ้นในกาลทุกเมื่อนั้นแล อนึ่งด้วยสัตวป่าทั้งหลายอันเข้ามาสู่บ้านสู่เมืองนั้น เจ้าพระยาขุนทึง ท่านก็มีอาชญา บอกกล่าวแก่ชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลาย ว่าไม่ให้บุคคลผู้ใดกระทำร้ายแก่สัตวทั้งหลายฝูงนั้น เพราะสัตวป่าทั้งหลายทั้งปวงฝูงนั้น ก็หาก