หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/16

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ไปเถิด แต่ข้าพเจ้ากับเสนาบดีทั้งปวงจะสู้กว่าจะตายในเมือง พระยาหงสาวดีจึงว่า เมื่อแลพระยาอุปราชา พระยาทละ ตละป้าน มิยอมให้เมืองเป็นข้ามังลอง เสียลูกสาวคนหนึ่งก็แล้วไปเถิด พระยาหงสาวดีกลับทำสงครามรบกับมังลอง ๆ จึงสั่งแก่นายทัพนายกองทั้งปวงว่า พระยาหงสาวดีเสียสัตย์แล้ว กลับจะทำสงครามรบกันกับเราอิกเล่า จึงสั่งให้นายทัพนายกองทั้งปวงเร่งเข้าล้อมเมืองหงสาวดีประมาณ ๑๕ วัน ไพร่พลเมืองทั้งปวงซึ่งอยู่หน้าที่เชิงเทินเมืองหงสาวดีก็เป็นใจด้วยมังลอง จุดเพลิงทิ้งเชือกลงมารับกองทัพพะม่าเข้าไปในเมือง จับได้พระยาหงสาวดี พระยาอุปราชา พระยาทะละ แลเสนาบดี ได้ในเวลากลางคืนวันนั้น ศักราชได้ ๑๑๑๙ ปี เดือน ๘ มังลองจึงพาเอาพระยาหงสาวดีและญาติวงศ์ทั้งเครื่องยศบริวารกลับขึ้นไปเมืองมุกโซโบ ครั้นถึงเมืองมุกโซโบแล้ว มังลองจึงเลี้ยงพระยาหงสาวดีทั้งบุตรภรรยาเสนาอำมาตย์ไว้ให้อยู่เป็นสุข ๚

 ครั้นศักราช ๑๑๒๑ ปี เดือน ๓ แรม ๑๐ ค่ำ มังลองจึงเกณฑ์มองระผู้บุตร กับอำมาตย์ชื่อ แมงละราชา แมงละแมงฆ้อง กับไพร่สองหมื่น เป็นกองหน้า มังลองเป็นทัพหลวง กับไพร่สามหมื่น ทั้งทัพหน้าทัพหลวงเป็นคนห้าหมื่น ยกเข้าไปกรุงทวาราวดีศรีอยุธยา ถึงณเดือน ๔ ขึ้น ๑๕ ค่ำ มาถึงเมืองเปร เป็นฤดูฝน มังลองหยุดทัพอยู่ที่เมืองเปร มังลองจึงยกเอามองระผู้บุตรมาไว้ในกองหลวงด้วย มังลองจึงเกณฑ์ให้แต่แมงละราชา แมงละแมงฆ้อง กับไพร่สองหมื่น ลงไปแรมทัพอยู่เมืองย่างกุ้ง ครั้นสิ้นเทศกาลฝน ถึงณเดือน ๑๑ มังลอง