หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/34

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๘

แคล่วทุกท่าแล้ว เมื่อไปเล่น เขาลักเปิดโปให้เห็นได้ว่าจะออกแต้มไหน เขาก็รวยทุกครั้ง กระบวนลักเปิดโปนี้คิดประดิษฐ์เปนท่าทางต่าง ๆ เพื่อ ปราถนาจะให้พ้นความไหวพริบของขุนพัฒน์ ถ้าขุนพัฒน์รู้เท่าทันถึงเขา ท่าไหน เขาก็คิดยักเปนท่าอื่นร่ำไป จนมีชื่อเสียงต่างๆ ตามท่านั้น เรียกว่า ท่ามังกรชูแก้วก็มี เสือลากหางก็มี กวางเหลียวหลังก็มี บังบิดแกนก็มี ท้าวแขนขออีแปะก็มี ผ้าแตะบ่าพลัดตกก็มี ยกก้นดูห้อเถาก็มี เหล่านี้ล้วนท่าทางที่ฝึกหัดไว้ลักเปิดโปทั้งนั้น การลักเปิดโปตามท่าทางต่าง ๆ กันนี้ เมื่อคราวแรก ๆ ขุนพัฒน์ฤๅคนทำโปคงไม่รู้เท่าถึงความรู้ของนักเลงเหล่านั้นก่อน เพราะกิริยาอาการที่จะลักเปิดโปโดยท่าทางอย่างใด ก็ไม่สู้ผิดแผกแปลกไปจากกิริยาอาการของคนที่เล่นตามธรรมดานัก เพราะฉนั้นจึงยากที่จะจับไหวพริบได้โดยเร็ว ต่อเมื่อไรได้เห็นเสียหนหนึ่งฤๅสองหนแล้ว นั่นแหละ จึงจะรู้สึกได้ว่ากิริยาอาการอย่างนั้น ๆเปนลัทธิสำหรับลักเปิดโปของคนจำพวกนั้น ๆ เมื่อขุนพัฒน์คนใดถูกเข้ารู้สึกแล้ว ทางที่จะแก้ไขก็มีแต่พาลรีพาลขวางทุบตีจับเอาตัวไว้ แล้วส่งไปยังเจ้าพนักงาน ไม่มีทางอื่นที่จะแก้ไขให้ดีกว่านี้ขึ้นไปได้ การลักเปิดโปนี้เปนทางฉิบหายของ ขุนพัฒน์ได้อย่างหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใคร่จะมีใครลักเปิดได้ เพราะ ขุนพัฒน์รู้เท่าเสียแทบทั้งนั้นแล้ว อิกอย่าง ๑ เรียกว่าการลักเปลี่ยนโป คือ เปลี่ยนลิ้นโปที่เล่น ถ้าเขาเปลี่ยนได้ก็เปนทางฉิบหายสำคัญของขุนพัฒน์เหมือนกันแต่รอดตัว