หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/88

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๘๒

แทงมากกว่ากันโดยลำดับลงมา เพื่อขุนบานจะได้คิดออกหวยโรงค่ำ หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกแทงหู้ ลักษณเตี๊ยมนั้นแบ่งพนักงานออกเปน ๑๐ กอง ประสงค์จะให้พนักงานเตี๊ยมรู้โพยเถาแต่คนละเล็กละน้อย ไม่ให้สามารถหาหลักฐานสำหรับแทงหวยได้ กองเตี๊ยมเถากอง ๑ มีคนขานโพยคน ๑ คนแต้มคน ๑ คนขานโพยอ่านแต่ชื่อตัวหวยที่มี ในใบโพยไม่ต้องบอกเรือนเงิน ผู้แต้มมีกระดาษเขียนตัวหวยเรียงกัน ไว้ในนั้น ผู้อ่านขานตัวไหนครั้ง ๑ ก็แต้มหมึกลงเปนคะแนนที่ตัวหวยนั้นครั้ง ๑ พอหมดจำนวนโพยในกองของตนก็เขียนรวมยอดบอกจำนวน ที่แทงว่าตัว ก มีคนแทงกี่คน ตัว ข มีคนแทงกี่คน เปนต้นจนตลอด ทุกตัวหวย แล้วไปส่งให้ "เตี๊ยมใน" อันเปนคนสนิทของขุนบานที่ เปนผู้สำหรับรวมยอดเตี๊ยมเถาทุกแขวงเสนอต่อขุนบาน ครั้นเสร็จการเตี๊ยมเถาแล้วก็เปนเสร็จการส่วนหวยโรงเช้า ถึงเวลาที่จะเตรียมการสำหรับออกโรงค่ำต่อไป ลักษณการออกหวยโรงค่ำ ก็เปนทำนองเดียวกันกับหวยโรงเช้าหมดทุกอย่าง จะต้องอธิบายแต่เรื่องเขียนโพยซึ่งแปลกออกไปสักเล็กน้อย เพราะเมื่อคนไปแทงหวยในตอนเย็น บอกเสมียนหวยไว้เสร็จว่าให้แทงหวยโรงค่ำอย่างไร ๆ บางคนสั่งว่าหวยที่แทงวันนั้น ถ้าโรงเช้ากินให้แทงตามโรงค่ำอิก ถ้าเช่นนี้เสมียนก็เรียกเงินไว้เสร็จ แลบางที ถึงเขียนโพยเตรียมไว้แต่เวลาหวยโรงเช้ายังไม่ออก แต่บางคนสั่งว่าถ้าถูกโรงเช้าให้แทงหู้ คือเพิ่มเงินแทงหวยตัวนั้นๆ โรงเย็น ยกตัวอย่าง ดังว่าแทงตัว ก กับตัว ข ตัวละบาท ๑ แล้วสั่งไว้ว่าถ้าหวยโรงเช้าออก