หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/97

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๑

อากรอย่างอื่นด้วย จึงได้รวยจนได้สร้างวัดภาวนาภิรตารามอันปรากฏอยู่ในคลองบางกอกน้อยนั้น แต่ถึงจะมีบ้างก็ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นในแสนของจำนวนคนที่เสียทรัพย์เสียตัวป่นปี้ไปเพราะหลงเล่นเบี้ยแลเล่นหวย เพราะฉนั้น ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพยายามมาทั้ง ๒ รัชกาล จนได้เลิกหวยแลบ่อนเบี้ยหมดสิ้นสยามประเทศนี้ ควรคนทั้งหลายจะระฦกถึงพระเดชพระคุณเปนล้นเกล้าฯ ทั่วกัน.

แต่อีกฝ่ายหนึ่ง ที่ใครจะหวนกลับไปติโทษรัฐบาลแต่ก่อน แม้แต่ครั้งกรุงเก่า ในข้อที่ตั้งอากรบ่อนเบี้ยแลอากรหวยขึ้นก็ดี ฤๅในข้อที่ยอมให้อากรทั้ง ๒ นี้มีมาเปนช้านานก็ดี ก็หาควรไม่ เพราะรัฐบาลทั่วทุกประเทศจำต้องมีเงินสำหรับใช้สรอยในการปกครองบ้านเมือง ก็ต้องขอเฉลี่ยเรี่ยรายมาจากราษฎร จึงต้องคิดวิธีการเก็บภาษีอากร โดยประสงค์จะให้ได้เงินมาให้พอใช้ในการปกครองบ้านเมืองนั้นอย่าง ๑ จะเก็บแต่พอควรแก่กำลังที่ราษฎรจะเสียได้ คือ ใครมีน้อยก็ให้เสียแต่น้อย ใครมั่งมีมากก็ให้เสียมากขึ้นไปตามกำลังอย่าง ๑ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงต้องคิดวิธีเก็บภาษีอากรเปนหลายอย่างหลายประการ แต่เมื่อคิดจะเก็บภาษีอากรอย่างใด ย่อมคิดโดยตั้งใจจะมิให้ราษฎรได้ความเดือดร้อน แลมิให้เปนการเสื่อมเสียแก่บ้านเมือง ก็อากรบ่อนเบี้ยก็ดี อากรหวยก็ดี มิได้เปนการบังคับเรียกเอาเงินทอง แล้วแต่ใครจะสมัคก็เล่น ไม่สมัคเล่นก็แล้วไป จึงนับว่า ไม่เปนการเดือดร้อนแก่ราษฎร ข้อที่เกรงว่า จะเปนการเสื่อมเสียแก่บ้านเมืองนั้นเล่า