หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๙) - ๒๔๖๓ b.pdf/62

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๕๒

เมื่อดวงพระอาทิตย์เหลือน้อย ดูในกล้องก็เห็นเปนเส้นขอบโอบวงมืดอยู่ เพราะดูด้วยกล้องที่กำบังด้วยกระจกสี แต่ดูด้วยตาเปล่าวงขอบนั้นรัดกลมเข้ามาดูเหมือนดวงดาว แต่รัดเล็กเข้าไปทุกทีเหมือน ตัวหิ่งห้อยแล้วจึงหายไป มีแต่สีขาวหลัวคล้ายเมฆขาวล้อมรอบวงดำอยู่ ครั้นดวงพระอาทิตย์ลับหายไป นาฬิกาคนถือดูก็ไม่เห็นมืดเหมือนกลางคืน ครั้นไปประมาณนาที ๑ ฤๅยังไรไม่แน่เพราะไม่เห็นนาฬิกา ในกล้องแลเห็นเปนกิ่งงางอนๆ ช้อนไปข้างทิศตวันออกของดวงดำที่ทับพระอาทิตย์อยู่ จมอยู่ในแสงขาวหลัวๆ รอบดวงดำนั้น เมื่อส่องด้วยกล้องใหญ่ คล้ายๆ กิ่งลั่นทมฤๅการังเขากวางปลายป้านๆ ไม่แหลม แต่ดูเห็นว่าเปนของมีตัวแท้ จะเปนรัศมีบันดาลนั้นหามิได้ ของก็ไม่ควรจะเห็นเพราะแสงขาวชักให้เห็นออกมาเหมือนกะแปะที่วางไว้ในถ้วยใหญ่คนอยู่ที่ข้างหนึ่งขอบถ้วยยังไม่เห็นแล้ว ครั้นน้ำเทลงในถ้วยถึงกะแปะไม่ลอยขึ้นไม่กระเทือนไป คนไม่ได้ชะเง้อขึ้นก็เห็นได้ด้วยกำลังเงาน้ำชัก ครั้นล่วงไปอิกสัก ๓ นาที จวนดวงพระอาทิตย์จะผุดออกข้างทิศพายัพ ก็เห็นเปนเงาเช่นนั้นเคียงติดกันเปนคู่ออกข้างทิศพายัพอิก ของเดิมก็ไม่หายไป ครั้นล่วงมาสัก ๕ นาทีเศษเห็นเปนฟันเลื่อยที่วงดำน้อยๆ ข้างทิศประจิมค่อนหรดีในดวงดำนั้น ครั้นแล้วพระอาทิตย์ผุดออกมา มีรัศมีเปนแสงสว่างเห็นนาฬิกาได้ ขณะนั้นนาฬิกาได้ ๑๑ นาฬิกา กับ ๔๓ นาที ๗ วินาที