หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๙) - ๒๔๖๓ b.pdf/64

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๕๔

จับเสียสัก ๑๑ ส่วนเศษ จะเหลืออยู่ส่วนหย่อนๆ เมื่อเวลาตี ๑๑ นาฬิกากับ ๔๔ นาทีเปนที่สุด แล้วคราธจะเร่แต่ทักษิณไปอาคเณย์ คายออกหลุดทิศอาคเณย์ เวลาบ่าย ๑ โมงกับ ๑๒ นาที การนี้เปนแต่การทรงคำนวณไม่ได้เห็น แต่ที่จะเปนก็คงจะไม่คลาศกำหนดนี้นัก แต่ผู้อยู่รักษาพระนครรักษาพระราชวังใจสกปรกเหม่นเหม่นักไม่ละการใจไพร่ ถึงพูดด้วยก็ไม่พอใจฟังไม่เอาใจใส่ พอใจพูดถึงแต่เวลาจับว่าจับโมงนั้นบาทนี้ ถูกของโหรนายนี้นายโน้นเท่านั้นแล้ว ก็มัวแต่จะเอาเงินแจกฤๅจะเอกเขนกทำยศคนผู้ใหญ่ไต่สูงไม่เอาใจใส่การละเอียด ถามใครก็ไม่ได้ความ

อนึ่งเมื่อแรกจับนั้น ถึงพอใจพูดกันว่าจับบาทนั้นโมงนั้น ก็พูดโง่ๆ เซอะๆ ด้วยเหตุสองประการ ประการหนึ่ง คือนาฬิกาก็ไม่ได้ตรวจตรา ตั้งวัดวาด้วยเครื่องมือแล้วคำนวณสอบสวนให้ถูกต้องกับเวลาพระอาทิตย์ เปนแต่เห็นว่าสว่างแล้วก็ย่ำรุ่ง นับถือว่าเปนต้นวัน ไม่ได้เหยียบชั้นคำนวณก่อนเวลาจับนั้นไม่ชอบกลเลย เปนแต่ไว้ให้หัวพันแลไพร่หลวงชาวนาฬิกาสมมุติว่าเปนผู้รู้แต่ชื่อ เปนแต่ที่นับถือของพระสงฆ์แก่ๆ ชาววัดมักพูดกัน พนักงานนาฬิกาหลวงนั้น เขาชื่อพันทิวาทิตย์ พันพินิตจันทรา เขาดูเวลาพระอาทิตย์พระจันทร์ทั้งกลางวันกลางคืน เขาผลัดกันตื่นอยู่ไม่หลับ นับเม็ดในขันนาฬิกาว่ากี่บาทต่อกี่บาทไม่คลาศเลย ใคร