ก็มาถึงพระนครภุกามแล้วก็อยู่ตามศุขสวัสดิ พระองค์ก็คอยท่าสำ เภา ๒ ลำนั้นอยู่แล
๏ บัดนี้จะกล่าวถึงสำเภา ๒ ลำนั้นก่อน ครั้นออกมาถึงท่ามกลางมหาสมุท ซึ่งสำเภาลำอันใส่พระปิฎกธรรมพวกชาวลังกานั้นก็เข้าไปถึงเมืองภุกามโดย สวัสดี ซึ่งสำเภาลำใส่พระแก้วเจ้ากับพระปิฎกธรรม อันชาวเมืองภุกามหากเขียนเอานั้น ก็พลัดเข้าไปถึงเมือง อินทปัตมหานครนั้นแล
๏ เมื่อนั้นพระเจ้าอนุรุธราชาธิราชมหากระษัตริย์ ครั้นพระองค์ได้ทรงคอยยังสำเภา ๒ ลำนั้น ก็เห็นแต่สำเภาพระปิฎกธรรมเข้ามาแต่ลำเดียว ซึ่งสำเภาทรงพระปิฎกธรรมแลพระแก้วเจ้านั้น ก็ไม่เห็นเข้ามาเลย พระองค์ก็น้อยน้ำพระไทยเปนนักหนา พระองค์ก็นึกแหนงแคลงพระไทยอยู่ จะเปนเหตุผลอันตรายประการใดก็ไม่รู้เลย พระองค์ก็พิจารณาไปในน้ำพระไทยอยู่ดังนี้มิได้ขาด ครั้นอยู่มามินานเท่าใด พระองค์จึงได้ข่าวว่าสำเภาอันทรงพระปิฎกธรรมกับพระแก้วเจ้านั้น พลัดเข้าไปในเมืองอินทปัตมหานคร พระองค์ก็มิอาจที่จะอยู่ช้าได้ พระองค์ขึ้นสู่หลังม้าแก้วอาชาไนย ก็เสด็จไปด้วยล่องอากาศเวหา จึงไปถึงเมืองอินทปัตมหานครแล้ว พระองค์ก็เสด็จลงสู่อารามแห่งหนึ่ง อันใกล้เมืองอินทปัตมหานครนั้น แล้วพระองค์ก็เสด็จลงจากหลังม้าแก้วอาชาไนยแล้ว พระองค์ก็แลเห็นแผ่นศิลาแห่งหนึ่งใหญ่หนานัก พระองค์ก็ถ่ายปัสสาวะลงเหนือหลังศิลาแผ่นนั้น น้ำปัสสาวะของพระองค์นั้นก็ลอดหินนั้นลงมาลุ่มนั้นแล