หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/202

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๘๑
พงษาวดารเขมร

ลุศักราช ๙๘๒ ศกวอกพระชัณษาได้ ๔๒ ปี สมภพเจ้าพระยาจันทร์พระองค์ทรงราชย์ลุศักราช ๙๘๓ ศกรกานักษัตรได้ ๔ ปี พระชัณษาได้ ๔๓ ปี พระเจ้ากรุงไทยยกกองทัพมาถึงพนมจังกาง พระองค์ยกทัพไปสู้รบกับทัพกรุงไทย ๆ หนีไป จับได้ชเลยเปนอันมากแล้ว พระองค์ให้เรียกไทยว่าเสียมจังกาง ลุศักราช ๙๘๔ ศกจอนักษัตรได้ ๕ ปี พระชัณษาได้ ๔๔ปี จึงพระมหาอุปราชกรุงไทยยกทัพเรือมาถึงพระองค์ให้ยกทัพไปสู้รบ พระมหาอุปราชกรุงไทยต้านทานไม่ได้ จึงยกทัพถอยกลับคืนไปยังกรุงไทยแล้ว พระองค์สร้างพระเจดีย์ใหญ่ชื่อพระเจดีย์ไตร ตรึงษ์ บนเขาพระราชทรัพย์แล้ว พระองค์บัญญัติให้บรรดามุขมนตรีใหญ่น้อยกับบรรดานายมหาดนายพลจะทูลขานให้ว่าสมเด็จพระนารายน์ นรนารถ พระองค์ทรงราชย์ลุศักราช ๙๘๙ ศกเถาะนักษัตรขึ้นสามค่ำมิคสิรมาสาพฤหัศบดีได้ ๑๐ ปี พระชัณษาได้ ๔๙ ปี พระองค์สุรคตลุเลิกพระศพเสร็จแล้ว สมเด็จพระอุไทยผู้เปนพระอนุชา เมื่อสมเด็จพระเชษฐายังมีพระชนม์อยู่นั้น ทรงพระนามพระบาทสมเด็จพระบรมราชา เมื่อศักราช ๙๘๙ ศกเถาะนักษัตรพระชัณษาได้ ๓๙ ปี พระองค์ไม่ทรงราชย์ พระองค์ขึ้นเปนมหาอุปโยราช ทรงพระนามพระบาทสมเด็จพระบรมราชา พระองค์บัญญัติให้บรรดามุขมนตรี ทูลแลขานให้ว่าพระภูธรนรนารถพระองค์มีแม่นางคนหนึ่งชื่อนักนางสนเกิดพระราชบุตรด้วยแม่นางนั้นองค์หนึ่ง เมื่อครั้งศักราช๙๘๒ ศกวอกนักษัตรพระชัณษาพระองค์ยังได้ ๓๒ ปี สมภพนักนอน พระองค์มีแม่นางหนึ่งชื่อนักนางสวดเกิดพระราชบุตรสององค์ด้วยแม่นางนั้น เมื่อลุศักราช ๙๙๖ ศกจอนัก