หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/33

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๒
พระราชพงษาวดารเหนือ

ร่วงจึงมาสู่สำเภากับด้วยนางพสุจเทวี แลเจ้าฤทธิราชกุมาร แลฝูงจีนทั้งหลาย๕๐๐เปนบริวารใช้สำเภาไปได้เดือนหนึ่งจึงถึงด้วยอานุภาพแห่ง เทพยดา ครั้นถึงเมืองสัชนาไลยแล้ว ขณะนั้นน้ำทเลขึ้นมาถึงเมืองสัชนาไลย จึงใช้สำเภาไปมาหากันได้ พระองค์เสด็จขึ้นถึงเรือนหลวงแห่งพระองค์เจ้าแล้ว แลท้าวพระยาทั้งหลายกราบถวายบังคม แลจีนทั้งหลายก็ทำถ้วยชามถวาย จึงมีเกิดถ้วยชามแต่นั้นมา ท้าวไททั้งสองก็อยู่เย็นเปนศุข ตั้งแต่ทำบุญให้ทานรักษาศีล แลถือความสัจอยู่มิให้พลาดพลั้ง จึงมีตระบะเดชะว่าสิ่งใดก็เปนสิ่งนั้นทุกอัน แลพระองค์ก็จึงให้เอาพสุจกุมารผู้เปนน้อง ตั้งพระราชวังอยู่นอกเมืองแลเจ้าพสุจกุมาร เจ้าฤทธิกุมาร เปนอันรักใคร่กันเปนนักหนามิได้ฉันทาโทษาแก่กัน ไปมาด้วยกัน เข้าไปถวายบังคมด้วยกันมิได้ขาด ในพระราชวัง

 แลเมืองพิไชยเชียงใหม่มีแต่พระราชธิดา แลหาพระราชบุตรมิได้ แต่อำมาตย์เมืองพิไชยเชียงใหม่ จึงกราบทูลขอพระราชทานเจ้า ฤทธิกุมารจะให้เสวยราชสมบัติสืบตระกูลมิให้ขาดเสียได้ แลสมเด็จพระอรุณราช จึงพระราชทานเจ้าฤทธิกุมารผู้เปนน้อง เสด็จขึ้นไปด้วยกัน แลให้เจ้าพสุจกุมารอยู่รักษาเมืองกับนางพสุจเทวี พระองค์ทรงช้างเผือกงาดำมีฤทธิยิ่งนักหนากับด้วยอำมาตย์เสนาเสด็จประพา ศตีนพนมใหญ่กึ่งกลางหน แลจึงเจ้าฤทธิกุมารผู้น้องผันหน้าช้างเข้าต่อกันแล้ว พระองค์จึงจับเอาคนทีทองเต็มไปด้วยน้ำทรงอธิษฐานให้เปนแดนแว่นแคว้นแห่งเจ้า แต่วันนี้ไปพระองค์จึงทรงเทน้ำในคนทีทองลงไป