หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/76

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๕๕
เรื่องพระมาลีเจดีย์

ถึงท้องขื่อวัดได้ ๑ เส้น ๑๐ วา พระรัตนบัลลังก์อยู่หว่างกลางห้องหนึ่งนั้น พื้นบนดาษด้วยทองคำหนาสามนิ้ว มีพื้นลดลงมาอิกห้องหนึ่งดาษด้วยนากหนาสามนิ้ว มีพื้นลดลงมาอิกชั้นหนึ่ง ดาษด้วยเงินหนาสามนิ้ว รอบรัตนบัลลังก์ทั้งสี่ด้าน ที่อาศนพระสงฆ์กว้างสามเส้น พื้นนั้นดาษด้วยเงินหนาสามนิ้ว ที่พื้นบริสัชนั่งนั้น ดาษด้วยดีบุกหนาห้านิ้ว นับเสาพระเชตุพนได้ ๓๐๐๐ เสา มีกำแพงแก้วรอบพระเชตุพนสูงสิบวา ขุนการเวกจึงถามปะขาวว่า พระเชตุพนนี้ท่านผู้ใดสร้าง ปะขาวบอกว่าอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐีสร้างถวายแด่สมเด็จพระพุทธเจ้า ที่อันนี้เปนที่สวนเจ้าเชต จึงให้ชื่อพระเชตุพน มหาวิหาร ตามนามพระราชกุมารผู้เจ้าของสวน มหาเศรษฐีสร้างสิ้นทรัพย์ถึง ๔๔ โกฏิ สร้างพระเชตุพนขึ้นจนสำเร็จ มหาเศรษฐีจ้างแต่คนในเรือนแห่งมหาเศรษฐีนั้นเองให้ทำการจ้าง ทองคำเสมอคนละตำลึงทอง คนในเรือนมหาเศรษฐีนั้น นับได้ ๑๒ อักโขภินี มหาเศรษฐีนั้นอยู่ปรางคปราสาทเจ็ดชั้น มีกำแพงแก้วสูงสองวา ขุนการเวกจึงถามปะขาวว่า เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าตรัสพระธรรมเทศนานั้น พระสงฆ์แลบริสัชนั่งเต็มพระเชตุพนฤๅมิได้ ปะขาวบอกว่าเมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าตรัสพระธรรมเทศนานั้น พระสงฆ์แลบริสัชเต็มออกไปจนกำแพงแก้วแล้วยังมิพอ บริสัชยังเหลืออยู่นั้นก็เปนอันมากปะขาวกับขุนการเวกแลคนทั้งปวงก็กลับมา ขุนการเวกให้วัดทางแต่พระเชตุพนมาถึงพระมาลีเจดีย์ เปนทาง ๒๕ เส้น ก็พากันมานมัสการพระสังฆราชา ๆ ก็ปราไสว่า อุบาสกไปนมัสการพระเชตุพนเห็นสนุก