หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒) - ๒๔๕๗ b.pdf/102

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๒

ทั้งสติปัญญาก็หนักแน่น ควรเปนที่รายามุดาได้ พระยาฤทธิสงครามรามภักดี พระยาไทรบุรี ขอรับพระราชทานตนกูอับดลดานีเปนที่พระเสนีณรงค์ฤทธิ รายามุดาเมืองไทรบุรี จะได้ช่วยพระยาฤทธิสงครามรามภักดี พระยาไทรบุรี ทำราชการสนองพระเดชพระคุณสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งตนกูอับดลดานีเปนที่พระเสนีณรงค์ฤทธิ รายามุดาเมืองไทรบุรี พระราชทานคอบทองเปนเครื่องยศ ออกไปรับราชการสนองพระเดชพระคุณตามตำแหน่ง

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ร.ศ. ๑๑๔ พระยาฤทธิสงครามรามภักดี พระยาไทรบุรี กับศรีตวันกรมการ เข้ามาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทณกรุงเทพฯ ทรงพระราชดำริห์ว่า พระยาไทรบุรีได้บังคับบัญชาราชการบ้านเมืองต่างพระเนตรพระกรรณมาช้านาน มีความชอบความดีมาก สมควรจะเลื่อนขึ้นเปนเจ้าพระยาได้

ครั้นวันที่ ๒๙ สิงหาคม ร.ศ. ๑๑๔ โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานจัดการประชุมพระบรมวงษานุวงษ์แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทบรรดาที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์สำหรับตระกูลจุลจอมเกล้า แลราชองครักษ์ มหาดเล็ก ตำรวจ กับเจ้าพนักงานต่าง ๆ ซึ่งมีน่าที่เกี่ยวในการนี้ เพื่อได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศพระราชทานสัญญาบัตรเพิ่มอิศริยยศพระยาไทรบุรีขึ้นเปนเจ้าพระยาไทรบุรี แลพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าด้วย เจ้าพนักงานได้จัดการที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทมุขกระสันเบื้องบุรพทิศ ตั้งพระราช