ครั้นณวันพฤหัศบดี เดือน ๖ ขึ้น ๗ ค่ำ ปีฉลู นพศก พระอมรวิไสยสรเดชกับพระยาราชวังสรรค์ซึ่งเชิญสัญญาบัตรท้องตรานำตั้งออกไปพระราชทานพระยาตรังกานู พระไชเยนทร์ฤทธิรงค์ รายามุดา ณเมืองตรังกานูนั้น กลับเข้ามาถึงกรุงเทพฯ พระยาตรังกานู พระไชเยนทร์ฤทธิรงค์ รายามุดา มีหนังสือตอบเข้ามาว่า ได้รับสัญญาบัตรท้องตรานำตั้งเสร็จแล้ว ราชการบ้านเมืองเรียบร้อยอยู่









ได้ทราบว่า เดิมเมืองกลันตันเปนบ้านเล็กเมืองน้อยอยู่ แต่พรรคพวกของตัว เมื่อตุวันมาโซเปนเจ้าเมืองตรังกานู ตั้งบ้านเมืองเปนพากภูมขึ้นแล้ว ยกทัพมาตีเมืองกลันตันไปเปนหัวเมืองขึ้นเมืองตรังกานู วงษ์ตระกูลเจ้าเมืองกลันตันครั้งนั้นจะสาบสูญไปอย่างไรไม่ทราบ แต่ที่เมืองกลันตันมีที่ฝังศพอยู่ตำบลหนึ่ง ทำไว้มั่นคงงดงาม ดูจะเปนที่ฝังศพผู้ดีอยู่ แต่ทุกวันนี้ หามีผู้ใดไปคำนับปีใหม่ตามธรรมเนียมแขกไม่ ที่ตำบลนั้นกับที่ฝังศพวงษ์ตระกูลพระยากลันตันทุกวันนี้ไกลกันประมาณ ๕ เส้น วงษ์ตระกูลพระยากลันตันก็ไม่ได้ไปคำนับ
วงษ์ตระกูลพระยากลันตัน สะนิปากแดง ทุกวันนี้ เดิมรายาทวอเปนพระยากลันตัน ก็ยังเปนหัวเมืองขึ้นเมืองตรังกานูอยู่ พระยากลันตัน รายาทวอ เปนเจ้าเมืองมาช้านาน มีบุตรชายชื่อ ตุหวันหลง