มิให้วิวาทกัน หลวงศรเสนีไปถึงเมืองกลันตันณวันพุฒ เดือน ๖ แรม ๑๐ ค่ำ ปีกุน เอกศก
ฝ่ายพระยาบาโหงยรู้ว่า หลวงศรเสนีพาเรือแกล้วกลางสมุทไปถึงเมืองกลันตัน ก็กลัวตัวมีความผิดอยู่ จึงชักชวนตนกูตะเงาะ ตนกูหลงฮามัด กับสมัคพรรคพวก นายไพร่ หนีไปอยู่ที่บ้านสลง แขวงเมืองตรังกานู หลวงศรเสนีหาได้พบตัวพูดจาไม่
หลวงศรเสนีว่ากล่าวห้ามปราม พระยากลันตัน ตนกูปะษา ก็หยุดรบกันแล้ว หลวงศรเสนีพาตัวตนกูปะษาขึ้นมาหาพระยาศรีพิพัฒน์ แม่ทัพ ณเมืองสงขลา พระยาศรีพิพัฒน์ แม่ทัพ ว่ากล่าวสั่งสอน ตนกูปะษาก็มีความอ่อนน้อม ให้ทานบนว่า ไม่วิวาทกับพระยากลันตัน
พระยาศรีพิพัฒน์ แม่ทัพ จึงให้หลวงศรเสนีถือใบบอกพาตนกูปะษากับสมัคพรรคพวกมาด้วยเรือแกล้วกลางสมุทเข้ามาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทกรุงเทพฯ ตนกูปะษารับสารภาพผิด ไม่คิดวิวาทกับพระยากลันตันต่อไป ขอกลับออกไปทำราชการอยู่ด้วยพระยากลันตันตามเดิม
เจ้าพนักงานนำคำให้การทานบนตนกูปะษาขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา แลนำตนกูปะษาเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชปฏิสันถารแก่ตนกูปะษาหลายประการ แล้วโปรดเกล้าฯ ให้มีท้องตราถึงพระยาศรีพิพัฒน์ฉบับหนึ่ง พระยากลันตัน พระยาจางวาง รายามุดา ฉบับหนึ่ง ให้หลวงศรเสนีพาตนกูปะษากลับออกไปหาพระยาศรีพิพัฒน์ แม่ทัพ ณเมืองสงขลา พระยาศรีพิพัฒน์ แม่ทัพ ได้มีหนังสือ