หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒) - ๒๔๕๗ b.pdf/14

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

สืบ ๆ กันไปตามแดนตามอำเภอกว่าจะถึงเมืองนคร อนึ่ง ถ้าจะเชิญเสด็จพระราชโองการ แลตราพระครุธพ่าห์ พระสุพรรณบัตร เสด็จไปประทับเมืองเพ็ชรบุรี ไปสถลมารคไซ้ ก็ให้ผู้รักษาเมืองผู้รั้งกรมการรับเสด็จพระราชโองการขึ้นไว้ณหอพระราชโองการเมืองเพ็ชรบุรี แลให้ล้อมระเนียด แลรั้วไก่ แลร้านเพลิง แลทิมดาบซ้ายขวา แล้วให้กะเกณฑ์ขุนหมื่นไพร่สรรพด้วยเครื่องสาตราวุธมานั่งยามกองเพลิงพิทักษ์รักษาอย่าให้เปนเหตุการประการใดได้ ครั้นพระราชโองการเสด็จไปโดยสถลมารคไซ้ ก็ให้ผู้รักษาเมืองผู้รั้งกรมการแต่งช้างพังพลายอันราบคาบดีนั้นผูกกระโจมทรงพระราชโองการ แลตราพระครุธพ่าห์ พระสุพรรณบัตร แลช้างดั้ง ช้างกัน แลโคเกวียน แลกะเกณฑ์ขุนหมื่นแลไพร่พลสรรพด้วยเครื่องสาตราวุธแห่แหนป้องกันสืบ ๆ กันไปจงทุกหัวเมืองกว่าจะถึงเมืองนคร อย่าให้เปนเหตุการประการใดได้ ครั้นพระราชโองการเสด็จไปยังทางประมาณวันหนึ่งสองวันจะถึงเมืองนครไซ้ ก็ให้ผู้จำทูลว่ากล่าวแก่ผู้รักษาเมืองผู้รั้งกรมการณเมืองนั้นตำบลนั้นให้ปลูกหอพระราชโองการเปนมณฑป ตั้งระเนียด รั้วไก่ ร้านไฟ แลทิมดาบซ้ายขวา แล้วเชิญพระราชโองการ แลตราพระครุธพ่าห์ พระสุพรรณบัตร ขึ้นไว้ แล้วให้สรรพด้วยเครื่องสาตราวุธนั่งยามกองเพลิงเปนกองซุ่มกองรายพิทักษ์รักษาทั้งกลางวันกลางคืน อย่าให้เปนเหตุการประการใดได้ แลให้ประโคมฆ้องกลองแตรสังข์ตามธรรมเนียม แลให้ตรวจจัดสารวัดห้ามปรามผู้คนอย่าให้ขี่ช้างม้า ใส่หมวก กั้นร่ม โพกศีศะ แลถือเครื่องสาตราวุธผ่านไปมาได้กว่าพระราชโองการจะเสด็จไป