หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔) - ๒๔๕๘.pdf/13

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

อุบลราชธานีแลมณฑลร้อยเอ็จทุกวันนี้ แต่ครั้งพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ยังเปนข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการรวมเปนมณฑลเดียวกัน ได้เปนตำแหน่งตั้งแต่ผู้ช่วยขึ้นไปจนได้เปนปลัดมณฑล ถ้าหากอยู่มาจนปานนี้ไม่สิ้นชีพเสีย ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า คงจะได้รับพระราชทานเกียรติยศแลบันดาศักดิสูงขึ้น แม้กล่าวในเหตุที่หม่อมอมรวงษ์วิจิตรสิ้นชีพ ผู้อ่านก็จะแลเห็นได้ว่า หม่อมอมรวงษ์วิจิตรเปนผู้มีอัชฌาไศรยอย่างไร คือ เมื่อปีมแม นพศก จุลศักราช ๑๒๖๙ พ.ศ. ๒๔๕๐ มีราชการเกิดขึ้นทางชายแดนซึ่งจำจะต้องส่งข้าราชการผู้รู้ราชการออกไปพบปะกับข้าหลวงฝรั่งเศส เวลานั้น เปนฤดูฝน ทางที่จะไปต้องไปในดงที่ไข้ร้าย หม่อมอมรวงษ์วิจิตรรับอาษาออกไป ก็ไปเปนไข้กลางทาง แต่ไม่ยอมกลับ ทำแคร่ให้คนหามออกไปราชการทั้งเปนไข้ จนสำเร็จราชการแล้ว ขากลับมาหมดกำลังทนพิศม์ไข้ไม่ได้ สิ้นชีพในระหว่างทางที่มาเมื่อ ณ วันที่ ๑๑ ตุลาคม ปีวอก สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๗๐ พ.ศ. ๒๔๕๑ ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะทรงยกย่องความชอบของหม่อมอมรวงษ์วิจิตร ทรงทราบฝ่าลอองธุลีพระบาทว่า เมื่อหม่อมอมรวงษ์วิจิตรมีชีวิตรอยู่ ได้แบ่งเงินเดือนส่งเข้ามาเลี้ยงหม่อมเจ้าเมฆินทร์ผู้บิดาเสมอ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินพระคลังข้างที่เลี้ยงหม่อมเจ้าเมฆินทร์เท่าที่ได้เคยรับจากหม่อมอมรวงษ์วิจิตรทุกปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันนี้ก็พระราชทานต่อมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ ส่วนภรรยาของหม่อมอมรวงษ์วิจิตรก็ได้รับพระราชทาน