หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔) - ๒๔๕๘.pdf/32

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๕

ออกไปลักเอาดินซึ่งชาวหงษาพูนนั้น แลการซึ่งพูนถนนั้นมิเปลือง จึงพระเจ้าหงษาทรงพระโกรธ ก็ให้เอานายทัพนายกองซึ่งพูนถนนนั้นลงโทษจงหนัก พระเจ้าหงษาก็ว่า ซึ่งการศึกแลเปนอันแหล้ดังนี้อันใด พระเจ้าแปรเปนน้องก็ดี พระอุปราชาเองก็ดี พระเจ้าอังวะอันเปนลูกเขยก็ดี ทั้งสามนี้จะลงอาญาถึงสิ้นชีวิตคนหนึ่งจึงจะได้แผ่นดินอยุทธยา พระเจ้าหงษาก็เร่งให้พระยาเกียรดิแลแต่งการที่จะปล้นนั้นจงฉับพลัน จึงพระอุปราชา พระเจ้าอังวะ พระเจ้าแปร แลท้าวพระยาผู้ใหญ่ มายืนบังคับบัญชาเอง แลต้อนพลทั้งปวงเอาทุบทูดาดฟ้ามาตั้งเปนหลายชั้น แล้วแต่งพลทหารแซงสองข้างถนนเข้ามารบพุ่งป้องกันให้พูนถนนนั้นเข้ามาให้ได้ ฝ่ายชาวในพระนครเอาปืนใหญ่มาตั้งจังก้าไว้ ซึ่งถนนอันพูนเข้ามาทั้งสามแห่งนั้น แลวางปืนใหญ่ออกไปต้องพลหงษาอันพูนถนนเข้ามานั้นตายก่ายกองอยู่ที่พูนถนนทั้งสามแห่งนั้น แลชาวหงษาก็เร่งขับกันเข้ามาพูนถนนั้น แลพูนถนนนั้นทำถึงสามเดือนจึงถึงชานกำแพงเสมอกำแพงพระนคร แลถนนซึ่งพูนนั้น (ฉบับลบ) จึงพระยาราม พระกลาโหม พระมหาเทพ ก็ให้ตั้งค่ายในกำแพงพระนครเปนวงพาด ก็เอาปืนใหญ่ปืนมณฑกมาตั้งดาไว้ในหน้าค่ายนั้น ฝ่ายพลอันอยู่หน้าที่กำแพงเชิงเทินนั้นก็รบพุ่งป้องกันอยู่ จึงพระเจ้าหงษาให้ยกพลเข้ามาโดยถนนมุมเกาะแก้วนั้น แลเอาทัพเรือมากระหนาบ เอาปืนจ่ารงค์มณฑกนกสับรุมยิงทั้งทัพบกทัพเรือชิงเอามุมเกาะแก้วนั้น จึงชาวทหารอาสาซึ่งอยู่หน้าที่มุมเกาะแก้วนั้นจะยิงรบพุ่งป้องกันมิได้ ก็พ่ายลงมายังค่ายซึ่งตั้งไว้นั้น ชาวหงษารุกเข้ามาทลายกำแพงมุมเกาะแก้วนั้นได้