หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔) - ๒๔๕๘.pdf/33

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๖

ครั้นเสียมุมเกาะแก้วนั้น พระยารามก็สลดใจ จะบังคับบัญชาการศึกนั้นมิเปนสิทธิดุจก่อน ก็คิดด้วยท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายว่า จะป้องกันสืบไปเห็นพ้นกำลัง แลจะแต่งออกเจรจาเปนไมตรี ท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายก็ว่า ซึ่งจะเปนไมตรีไซร้แต่ยังมิได้รบกันเปนสามารถ แลซึ่งได้รบพุ่งเปนสามารถแลเสียรี้พลพระเจ้าหงษาเปนอันมากแล้วดังนี้ พระเจ้าหงษายังจะรับเปนไมตรีฤๅ ท้าวพระยาทั้งหลายก็มิฟังพระยารามซึ่งจะชวนเปนไมตรีนั้น แต่นั้นไป ท้าวพระยามุขลูกขุนผู้ทหารทั้งปวงมิฟังบังคับบัญชาพระยาราม แลต่างคนต่างรบพุ่งข้าศึก สมเด็จพระมหินทราธิราชพระเจ้าแผ่นดินก็มิเอาพระไทยลงในการศึก แลละให้แต่มุขมนตรีทั้งหลายรบพุ่ง ขณะนั้น พระมหาเทพถือพลอาสาอยู่รักษาน่าค่ายในมุมเกาะแก้วกำแพงซึ่งทลายนั้น ข้าศึกหงษายกเข้ามาปล้นค่ายนั้นเปนหลายครั้ง แลพระมหาเทพป้องกันเปนสามารถ อนึ่ง พระเจ้าลูกเธอพระศรีเสายกพลอาสามายืนช้างที่นั่งให้พลอาสาช่วยพระมหาเทพรบพุ่ง แลแต่งพลอาสาออกทลวงฟัน แล้วก็วางปืนใหญ่ยิงทแยงออกไปต้องข้าศึกหงษาตายมากนัก ข้าศึกจะปล้นเอาค่ายนั้นมิได้ก็ตั้งประชิดกันอยู่ อนึ่ง จวนเทศกาลฟ้าฝน พระเจ้าหงษาก็คิดด้วยพระมหาธรรมราชาซึ่งจะเพโทบายเอาตัวพระยารามผู้เปนเจ้าการป้องกันพระนครนั้นแล้วแลจะปล้นเอาพระนครจงได้ จึงพระมหาธรรมราชาแต่งนายก้อนทองข้าเดิมให้ถือหนังสือลอบเข้ามาถึงขุนสนมข้าหลวงซึ่งเขาลงมาแต่พิศณุโลกนั้น ขุนสนมก็ส่งหนังสือนั้นเข้าไปถวายพระเจ้าอยู่หัวฝ่ายใน ลักษณหนังสือนั้นว่า พระเจ้าช้างเผือกตรัสคิดด้วยพระยาราม