หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๓) - ๒๔๗๓.pdf/117

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๙

กะตุดประเจียดมงคลให้แก่กรมการนายบ้านชาวเมืองทั้งปวงคน เหล่านั้นก็นิยมยินดี ถือมั่นเอาสิ่งนั้นเปนเครื่องป้องกันสาตราวุธ พาให้ใจกล่าวขึ้นถึงอาจสู้รบพม่าได้ กรมการจึงจัดพลได้พันเศษ แล้วเชิญท่านมหาช่วยอาจารย์ขึ้นคานหาม (ไนยหนึ่งว่า ขี่ช้างมาในกองทัพด้วย) ยกออกมาตั้งคอยรบพม่าอยู่กลางทางห่างเมืองพัทลุง พระมหาช่วยมีปืน ๒ กระบอกยัดดินส่งให้ศิษย์เดินยิงมาน่าช้าง พม่าข้าศึกดูเห็นเปนกองทัพใหญ่ยกมาก็แตกหนีไป ๚

 ครั้นเมื่อกรมพระราชวังบวรฯ เสด็จยกกองทัพเรือมาถึงเมืองชุมพร ตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ในเมือง จึงมีพระบัณฑูรดำรัสสั่งให้พระยากลาโหมราชเสนา พระยาจ่าแสนยากร กองน่า ยกทัพบกล่วงออกไปตั้งอยู่ณเมืองไชยาเปนหลายค่าย ๚

 ฝ่ายกองทัพพม่าแจ้งว่า ทัพกรุงยกออกไป แม่ทัพจึงให้เนมโยคุงนรัด กองน่า ยกกองทัพมารับทัพกรุง แก่งหวุ่นแมงยี่ แม่ทัพ ก็ยกหนุนมา พอทัพน่าพม่ายกมาปะทะทัพไทยที่เมืองไชยา ยังไม่ทันจะตั้งค่าย ไทยก็ยกเข้าล้อมพม่าไว้รอบ ขุดสนามเพลาะรบกันกลางแปลงแต่เช้าจนค่ำ พอฝนตกห่าใหญ่ลงมา พม่าจึงแหกออกจากที่ล้อมหนีไปได้ พลทหารไทยไล่ติดตามพม่าไปในเวลากลางคืน พม่ามิได้หยุดรอรบ แตกกระจัดพลัดพรายไปทีเดียว ฝ่ายแม่ทัพพม่ารู้ว่า กองน่าแตก ก็มิได้มารบ เลยบากทางหนีไปข้างตวันตก ๚