สลึง แล้วได้สร้างพระอุโบสถวัดเทพชุมนุม แลโรงธรรมศาลาบาตหอระฆัง กับทั้งตึกกุฎีใหญ่น้อยทั้งปวง แลโรงฉัน คิดเปนเงินสามพันมีเศษห้าร้อยสิบห้าเหรียญ ครั้งณวันเดือนสี่ ขึ้นสิบเอ็ดค่ำ จุลศักราช๑๒๒๑ ปีมแม เอกศก ได้นิมนต์พระสงฆ์สำแดงพระธรรม ๕ รูป พระสงฆ์เจริญพระปริต ๓ วัน แล้วผูกพัทธเสมา ๕๒ รูป ถวายไตรจีวรแพร จีวรผ้า รูปละ ๕๗ ไตร กับเครื่องบริขารในการฉลองลงทุนใช้จ่าย ๕ รายวัน คิดเปนเงินพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบหกเหรียญครึ่ง กับได้ช่วยทาษไว้ให้เปนไวยาวัจกรสำหรับสงฆ์ใช้สอยสองครัว ๆ ละสามสิบห้าเหรียญ เปนเงิน ๗๐ เหรียญ รวมกันที่ได้บริจาคไว้ในวัดเทพชุมนุมสามราย คิดเปนเงินห้าพันเหรียญครึ่ง แล้วได้บุรณปฎิสังขรณ์วัดโพเงิน ๓๖๑ เหรียญ วัดศิริวนาวาศ ๕๐๓ เหรียญ รวมกันเป็นเงิน ๙๓๔ เหรียญ แล้วได้จำเริญอายุศมถวายไทยทานแก่พระสงฆ์ แลให้ทานแก่ไทยจีนแขกเปนเงินใช้จ่ายห้าพันมีเศษเจ็ดร้อยสามเหรียญ ได้สร้างคัมภีร์สิกขาบทสิบคัมภีร์ แลสร้างคัมภีร์พระสารสังคหะวินิจฉัยจนจบ เปนเงินร้อยมีเศษสิบเอ็ดเหรียญ แล้วได้ทนุบำรุงยกย่องพระบวรพุทธสาสนา จ้างให้อาจารย์ผู้รู้ธรรมมาบอกพระไตรปิฎกแก่พระสงฆ์ณหอภายในกำแพงจวนมุมหรดี ปฎิบัติพระสงฆ์ด้วยน้ำชาแลเภสัชเปนต้น แลเงินนิตยภัตรสำหรับถวายพระสงฆ์สำแดงพระปาติโมกข์ทุกดับทุกเพ็ญ ๑๒ อาราม ๆ ละเหรียญ เปนเงินเดือนละ ๑๒ เหรียญมิได้ขาด ๚
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๓) - ๒๔๗๓.pdf/55
หน้าตา