เจ้าท่าน สมุหพระกระลาโหม ที่แหลมซาย ครั้นณวันเดือนเจ็ด แรมสิบค่ำ ปีมเมีย สัมฤทธิศก เจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาจัดแจงกำปั่นวิเชียรคิรี ให้ขุนพิทักษ์นาเวศเปนนายลำ กำปั่นมณีกลอกสมุท ให้หมื่นประสิทธิคงคาเปนนายลำ ให้หลวงอำนาจกำแหง ซึ่งเปนหลวงศรีปดุกา คุมกำปั่นวิเชียรคิรี ให้ขุนพรมมนตรี ขุนเสตียนเดหวา คุมกำปั้นมณีกลอกสมุท เข้าไปรับพณหัวเจ้าท่าน สมุหพระกระลาโหม ณกรุงเทพพระมหานคร ณวันเดือนแปด ทุติยาสาธ ขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมเมีย สัมฤทธิศก พณหัวเจ้าท่าน สมุหพระกระลาโหม ขี่กำปั่นเสนินทรประดิษฐออกมาถึงเมืองสงขลา ได้ขึ้นพักอยู่ทำเนียบซึ่งปลูกไว้คอยรับ ผู้คนซึ่งติดตามพณหัวเจ้าท่าน สมุหพระกระลาโหม ออกมา ๕๐๐ คนเศษ เจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาให้ตั้งโรงครัวคาวหวานทำของเลี้ยงวันละสามเพลามิให้ขัดสน พณหัวเจ้าท่าน สมุหพระกระลาโหม เที่ยวตรวจดูป้อมกำแพงเมืองทั่วแล้ว ๆ มีพระประสาทสั่งกับเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาว่า ณเดือนแปด เดือนเก้า ปีมแม เอกศก พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินออกมาทรงทอดพระเนตรฝ่ายเมืองปากใต้ ให้จัดแจงปลูกพลับเพลาไว้คอยรับเสด็จ พณหัวเจ้าท่าน สมุหพระกระโหม พักอยู๋ที่เมืองสงขลา ๗ ราตรีกับ ๖ ทิวา เอากระบี่ด้ามทองฝักทองอย่างลอนดอนเล่มหนึ่ง เข็มขัดสายหนึ่ง ให้เจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา กับยกที่กำแพงเพ็ชร แขวง
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๓) - ๒๔๗๓.pdf/58
หน้าตา