หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖๔) - ๒๔๗๙.pdf/427

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
382
 

เจ้าพระยาสุรสงครามอยู่ณตึกสี่เหลี่ยมบ้านเดิม ให้พระราชทานเครื่องยศแลแห่เครื่องสูงสามชั้นเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เหมือนกัน ทั้งสามแห่ง แลสมเด็จพระนารายน์เป็นเจ้า มีพระราชภคินี คือ กรมหลวงโยธาทิพ พระองค์หนึ่ง มีพระราชบุตรี คือกรมหลวงโยธาเทพพระองค์หนึ่ง ครั้นเสด็จพระราชดำเนินแต่เมืองนนท์ลงมาถึงกรุงเทพ มหานครแล้ว จึงเสด็จพระราชดำเนินไปจะเข้าที่บรรทมพระตำหนัก ตึกกรมหลวงโยธาทิพๆ บอกพระอาการว่าทรงพระประชวรอยู่ จึงเสด็จพระราชดำเนินไปหน้าพระตำหนักตึกกรมหลวงโยธาเทพ ๆ ไม่ยอม ตรัสตัดพ้อ ตรัสแล้วทรงแสงดาบติดพระหัตถ์อยู่ จึงทรงพระกรุณาให้หาหมอทำเสน่ห์ ก็เสด็จเข้าที่พระบรรทม ให้ทรงพระกรรแสง ครั้นเสด็จพระราชดำเนินไปครั้งหลังจึงยอม ประมาณ ๗ เดือน ๘ เดือนกรมหลวงโยธาเทพทรงพระครรภ์ ๆ ๓ เดือน ณ เดือน ๙ ปีมะโรงศกถาดทองในพระราชวังหาย ทรงพระกรุณาให้ พิจารณาสืบสาว ไปได้ถาดทองในพระราชวังหลัง จึงทรงพระกรุณาให้ลงพระราชอาญา นายช้างทรงบาศถึงสิ้นชีวิต ครั้นอยู่ณเดือน ๑๑ ปีมะโรง ทรงพระกรุณาให้เจ้าพระยาสุรสงคราม ว่าจะอยู่ก็กีดขวาง ก้มหน้าไปเถิด อย่าคิดวิตกถึงลูกเมียเราจะเลี้ยง ครั้นเจ้าพระยาสุรสงครามตายแล้ว จึงทรงพระกรุณาให้เอาบุตรชายอายุ ๑๐ เดือน เข้ามาเลี้ยงไว้ใน พระราชวัง ให้มีพี่เลี้ยงนางนม และให้ทำการพระเมรุมาศ ถวายพระเพลิงพรบรมศพสมเด็จพระนารายน์เป็นเจ้า ขนาดใหญ่ ขื่อ ๗ วา ๒ ศอก สูง ๒ เส้น๑๑ วาศอกคืบ ครั้น ทำการพระเมรุมาศ