หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖๔) - ๒๔๗๙.pdf/431

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
386
 

ทรากนั้น หาตายไม่ ธรรมเถียรตั้งอยู่ที่ได้เอามารักษาไว้มิดชิด ธรรมเถียรพุดจากับชาวบ้านผู้ใหญ่ แล้วเข้าไปในม่านทำเป็นทูล เจ้าแต่เบาๆ ทำเป็น ๒ เสียง ๓ เสียง ผู้คนชาวบ้านแขวงเมือง สระบุรีแลแขวงเมืองลพบุรี แขวงขุนละครเชื่อ ฟังลุ่มหลงเข้า ด้วยเป็นอันมาก ครั้นกลางเดือน ๓ ธรรมเถียรยกลงมาตั้ง อยู่ในตำหนักพระนครหลวง ๓ วัน ใช้ให้ลงมานิมนต์พระพรหม ณวัดปากคลองช้างว่าเจ้าฟ้าอภัยทัศเสด็จมาอยู่ณพระตำหนักพระนครหลวงแล้ว ให้นิมนต์ขึ้นไป พระพรหมจึงว่าแก่ผู้มานิมนต์ว่า ถ้า ลูกกูยังอยู่จริง จะอยู่ใยแต่พระนครหลวงเล่า ก็จะมาหากูถึงวัด สูเจ้าอย่าเชื่อฟังมันจะพลอยตายเสียเปล่า ผู้ซึ่งมานิมนต์กลับไป บอกกัน ก็แตกออกหนีเสียก็มาก ครั้นเพลารุ่งเช้า อ้ายธรรม เถียรติดไฝที่หน้าให้เหมือนเจ้าแล้ว ขึ้นช้างกระโจมยกเข้ามา วัน นั้นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เสด็จ ทรงช้างไปทอดพระเนตรให้จับช้างอยู่ณกลางแปลง ต้องเข้ามาบอก ให้กราบทูลว่า อ้ายคิดมิชอบคบคิดกันยกเข้ามาตีกรุง ครั้นทอด พระเนตรไปเห็นอ้ายเหล่าร้ายยกเข้ามาถึงบ่อโพง จึงมีพระบัณฑูร ให้ขุนอินทรบาลเข้ามากราบทูลพระกรุณา พระบาทสมเด็จบรมนาถ บรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทราบใต้ละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงเสด็จทรงช้างต้นพลายมงคลจักรพาฬ แลมีพระราชโองการสั่งมหาดเล็กให้วิ่งไปเชิญพระแสงขอพลพ่าย ณโรงแสงสารพัตรยุทธ์