หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/43

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๖

ผงคลีที่กลุ้มตระหลบจางลง ช้างพระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวรก็เข้าไปถึงที่พระมหาอุปราชายืนช้างอยู่ในกองทัพหลวงข้าศึก สมเด็จพระนเรศวรก็ไม่หวาดหวั่น เห็นได้ช่องในเชิงสงคราม จึงตรัสท้าพระมหาอุปราชาให้ทำยุทธหัตถี คือ ชนช้างสู้กันตัวต่อตัว ด้วยเปนลักษณยุทธการที่ถือกันมาแต่ดึกดำบรรพ์ว่า เปนเกียรติยศอย่างสำคัญ แลในสมัยนั้น คงกำลังเลื่องลือเกียรติยศของพระเจ้าหงษาวดีไชยสิงห์ที่ได้ชนช้างชนะพระเจ้าอังวะ พระมหาอุปราชาได้ยินสมเด็จพระนเรศวรชวนชนช้าง จะไม่ชนก็เสียเกียรติยศ มีความละอาย จึงเข้าชนช้างด้วยสมเด็จพระนเรศวร ทีแรก ช้างพระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวรเสียที พระมหาอุปราชาฟันด้วยของ้าว สมเด็จพระนเรศวรหลบทัน ถูกแต่พระมาลาบิ่นไป พอช้างพระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวรกลับได้ที ชนช้างที่นั่งพระมหาอุปราชาเบนไป สมเด็จพระนเรศวรฟันด้วยพระแสงของ้าวเจ้าพระยาแสนพลพ่ายถูกพระมหาอุปราชาทิวงคตบนคอช้าง ส่วนสมเด็จพระเอกาทศรถนั้นชนช้างกับเจ้าเมืองจาปโร (พระราชพงษาวดารเรียกว่า มังจาชโร พี่เลี้ยง) ฟันเจ้าเมืองจาปโรตาย พอสมเด็จพระนเรศวรชนะยุทธหัตถี ก็พอพวกทหารไทยตามเสด็จเข้าไปถึง แต่ไม่พอเปนกำลังที่จะตีข้าศึกให้แตกยับเยินไปได้ สมเด็จพระนเรศวรต้องถอยกลับออกมา พวกข้าศึกจึงรวบรวมกันพาศพพระมหาอุปราชากลับไปเมืองหงษาวดี ไม่แตกยับเยินไปเหมือนอย่างคราวก่อน