หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/72

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๕

พม่ายังปราบปรามไม่ได้เรียบร้อย ด้วยพวกท้าวพระยาที่เปนเจ้าเมืองต่าง ๆ ในลานนาคบคิดกับเจ้านครหลวงพระบางจะตีเอาเมืองเชียงใหม่คืนจากพม่า พระเจ้ามังระจึงให้เนเมียวสีหบดีเปนแม่ทัพคุมพล ๒๐,๐๐ ยกไปปราบปรามพวกขบถทางเมืองเชียงใหม่เมื่อปลายปีมะแม จุลศักราช ๑๑๒๕ พ,ศ, ๑๓๐๖ ทาง ๑ ให้ มังมหานรธาเปนแม่ทัพคุมพล ๒๐,๐๐๐ ลงมาตีเมืองทวายอิกทาง ๑ ส่วนพระเจ้ามังระเองยกกองทัพขึ้นไปปราบปรามพวกกระแซทางเมืองมณีบุระ

กองทัพมังมหานรธายกลงมาตีเมืองทวายเมื่อเดือนอ้าย ปีวอก จุลศักราช ๑๑๒๖ พ,ศ, ๒๓๐๗ หุยตองจา เจ้าเมืองทวาย ต่อสู้พม่าไม่ได้ จึงลงเรือหนีมาอาไศรยอยู่เมืองมฤทในอาณาเขตร์ไทย พม่าจะให้ไทยส่งตัวหุยตาจองให้ ไทยไม่ยอมส่ง พม่าได้เมืองทวายแล้ว ก็ยกกองทัพเรือ มีจำนวนเรือรบ ๖๐ ลำ ตามลงมาตีเมืองมฤทเมื่อเดือนยี่ ปีวอก ผู้คนพลเมืองพากันหนีเข้าป่า ไม่มีผู้ใดต่อสู้ พม่าได้เมืองมฤทแล้วจึงแบ่งกอทัพกอง ๑ ให้ยกติดตามหุยตองจากับกรมหมื่นเทพพิพิธลงมาเมืองกระบุรี ส่วนกองทัพมังมหานรธายกกลับไปเมืองตนาวศรี ก็ได้เมืองโดยง่าย ด้วยไม่มีผู้ใดต่อสู้อิก พม่าเก็บริบทรัพย์จับคนเปนเชลยได้พอแล้ว ก็ให้เผาเมืองเสียทั้งเมืองมฤทแลเมืองตนาวศรี ส่วนพม่าพวกที่ยกลงมาเมืองกระบุรีก็ทำอย่างเดียวกัน เที่ยวตีปล้นริบทรัพย์จับ