หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/73

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๖

เชลยแจกจ่ายกันเรื่อยมา ด้วยไม่มีผู้ใดต่อสู้ พม่าก็ได้ใจ เลยเดินข้ามจากเมืองกระบุรีเข้ามาตีได้เมืองชุมพร เมืองไชยา แล้วย้อนขึ้นมาตีเมืองปทิว เมืองบางตะพาน ทางริมทเลข้างน่าใน จนเมืองกุย เมืองปราณ ทำนองจะได้ข่าวว่า กองทัพกรุงยกลงไปถึงเมืองเพ็ชร์บุรี พม่าก็พากันยกกลับออกไปเมืองทวายทางด่านสิงขร หุยตองจา ทวาย กับกรมหมื่นเทพพิพิธ หนีพม่าขึ้นมาที่เมืองเพ็ชร์บุรี ข้างกรุงศรีอยุทธยาให้ข้าหลวงเอาหุยจองตาไปคุมไว้ที่เมืองชลบุรี กรมหมื่นเทพพิพิธนั้นให้ไปคุมไว้ที่เมืองจันทบุรี ที่จริงพม่าที่เข้ามาถึงหัวเมืองชายทเลน่าในครั้งนั้นเปนแต่กองทัพน่าจู่เข้ามาเที่ยวเผาบ้านเรือนปล้นเก็บทรัพย์จับผู้คนไปเปนเชลยอย่างขะโมยกองใหญ่ ๆ หากไม่มีใครต่อสู้ จึงทำได้ตามชอบใจ แต่ตัวมังมหานรธา แม่ทัพนั้น กลับไปตั้งอยู่ที่เมืองทวาย หาได้ยกเข้ามาไม่

พม่ายกมาคราวนี้มีเนื้อความปรากฎในคำให้การพวกกรุงเก่าว่า ที่กรุงศรีอยุทธยา ให้กองทัพยกออกไปช่วยรักษาเมืองตนาวศรี พระยาพิพัฒนโกษาเปนแม่ทัพ พระเจ้ากรุงธนบุรี ในหนังสือนั้นเรียกว่า "พระยาตากสิน" ก็ไปในกองทัพนั้นด้วย แต่ไม่ปรากฎในที่ใด ๆ ว่า กองทัพไทยได้รบกับพม่าที่ยกมาคราวนี้ จึงเข้าใจว่า ยกไปไม่ทัน เห็นจะไปถึงราวเมืองเพ็ชร์บุรี ได้ข่าวว่า พม่ายกกลับไปหมดแล้ว ก็ให้หากองทัพกลับเพียงนั้น

พม่ายกมาคราวนี้ ในหนังสือพงษาวดารพม่ากล่าวว่า เมื่อมังมหานรธาตีได้หัวเมืองข้างใต้แล้ว ก็ยกเลยขึ้นมากรุงศรีอยุทธยา ผิดกับที่กล่าวในหนังสือพระราชพงษาวดาร ข้าพเจ้าเห็นว่า ความจริง