ให้พระยาราชเสนา แต่ยังเป็นที่หลวงภักดีณรงค์ ขึ้นมาจัดการอยู่ที่เมืองนครจำปาศักดิ์ พระยาราชเสนาได้หาตัวอุปฮาดราชวงศ์เมืองเชียงแตง แลกรมการผู้ใหญ่ผู้น้อยเมืองธราบริวัฒ เมืองศรีทันดร เมืองแสนปาง ขึ้นมาพร้อมกันที่เมืองนครจำปาศักดิ์ พระยาราชเสนา กับเจ้านครจำปาศักดิ์ ได้ถามอุปฮาดราชวงศ์เมืองเชียงแตงว่า อาณาเขตต์เมืองพนมเปญมาติดต่อกับเมืองเชียงแตงที่ตำบลใด ได้ปักปันสิ่งใดไว้เป็นสำคัญ อุปฮาดราชวงศ์เมืองเชียงแตงแจ้งความต่อพระยาราชเสนา ข้าหลวง แลเจ้านครจำปาศักดิ์ ว่า เขตต์แดนเมืองเชียงแตงต่อติดกับเมืองพนมเปญนั้น มีต้นมะขามที่บุ่งขลาท้ายเกาะแพด่านจะลับนั้นต่อติดกันที่ต้นกะโดนต้นหนึ่ง ต้นรังต้นหนึ่ง หว่างเขาตาปมแต่เดิมมา ภายหลัง เจ้าพระยาบดินทรเดชาฯ ก็ได้แต่งข้าหลวงออกมาปักปันเขตต์แดนที่ตำบลบุ่งขลาแห่งหนึ่ง ด่านจะลับแห่งหนึ่ง ครั้นปีฉลู สัปตศก ศักราช ๑๒๒๗ ปี เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงศ์ แต่ยังเป็นเจ้าราชวงศ์เมืองนครจำปาศักดิ์ ได้ลงไปวัดเส้นตรวจทางไปถึงบุ่งขลา ได้เอาหลักเสาไม้แก่นปักซ้ำรอยหลักเดิมหลักหนึ่ง ไปปักด่านจะลับตามรอยหลักเดิมหลักหนึ่ง แล้วพระยาราชเสนากับเจ้านครจำปาศักดิ์แต่งให้ข้าพเจ้ากับอำมาตย์เสนาเพี้ยเมืองซอง เมืองนครจำปาศักดิ์ กับราชบุตรแสนปานท้าวสีโสราชเมืองศรีทันดร ไปปักหลักเขตต์แดนพร้อมด้วยอุปฮาดราชวงศ์เมืองเชียงแตง ข้าพเจ้าพร้อมกันได้ออกไปถึงด่านบุ่งขลา ได้ตรวจตราเห็นว่า มีต้นมะขามสามต้น แต่หลักเก่านั้นชำรุดผุโค่นเสียหมด ข้าพเจ้าจึงตัดไม้แก่นปักลงไว้ที่ตำบลบุ่งขลาหลักหนึ่ง
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗๐) - ๒๔๘๔.pdf/231
หน้าตา