หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗) - ๒๔๖๐.pdf/77

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๗

มหาดไทยนอกราชการมีตราให้หาลงมา จึงเปนที่ขุนโขลน ๆ เก่านั้นขัดรายผู้ร้ายไว้ ท่านว่าขัดพระราชโองการ จึงให้พิพากษาโทษไว้ครั้งหนึ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ไปเปนผู้รั้งณเมืองเพ็ชรบูรณ์ แต่เปนขุนโขลนมาในครั้งบรมโกษฐ ๖ คน เมื่อครั้งสุริยามรินทร์ ๔ คน ขุนยกรบัตร ๒ คน ขุนยกรบัตรปู่ปะขาวเท้งนั้น ขุนยกรบัตรปู่ขุนธรรมการนั้น นานมาจึงถึงขุนยกรบัตรบุญรอดนั้น เปนข้าหลวงกำกับเมื่อครั้งพระลายจักรหายนั้น ท่านให้พระยายมราชกำกับพิจารณา เอาข้าพระมามัดผูกตีโบยที่ตึกสวนมะพร้าว เพลากลางคืนนั้นพระธาตุเสด็จออกจากยอดพระมณฑปใหญ่ประมาณเท่าลูกมะขวิด ครั้นถึงสวนมะ พร้าวนิ่งลอยอยู่บนอากาศจึงหายไป พระยายมราชนั้นก็เกิดวิปริตต่าง ๆ

แต่ก่อนมีทั้งบ่อนเบี้ยนายอากรเหล้า เมื่อครั้งขุนไชยบาลนายอากรเหล้าฟ้องหากล่าวโทษนายลิ้มกับผู้มีชื่อ ๔ คนว่าต้มเหล้าจึงมีตราพระราชสีห์โปรดเกล้า ฯ ขึ้นมาให้พิจารณาตามกระทรวง ครั้นขุนหมื่นกรมการข้าพระพุทธบาทพิจารณาตามท้องตรา โจทย์จำเลยมีคำต่อกันไปมา พิจารณาไม่ตกลงกัน จึงบอกส่งลงไปยังท่านลูกขุนณศาลา ท่านจึงส่งคู่ความไปยังศาลพระพัศดี ครั้นถึงศาลโจทย์จำเลยสมัคพรรคพวกกับจำเลย ๔ คน เสียเงินคนละ ๙ ตำลึง ๔ คนเปนเงิน ๑ ชั่ง ๑๖ ตำลึง