หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗) - ๒๔๖๐.pdf/79

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๙

ขุนหมื่นรักษาพระตำหนักพระนครหลวง ขุนพรหมมนตรีคน ๑ ขุนทิพมนตรี ๑ ขุนเทพมนตรี ๑ รวม ๓ ขุนทิพราช ๑ ขุนเทพราช ๑ รวม ๒ หมื่นอินทร์ ๑ หมื่นพรหม ๑ รวม ๒ เปนธรรมเนียมมาแต่ครั้งบรมโกษฐมาจนถึงที่นั่งสุริยามรินทร์ เมืองนครขีดขิน ในพระบาฬีเรียกว่าปรันตปะนครราชธานี จึงตั้งสมเด็จเจ้า ตั้งว่า พระมหามงคลเทพมุนีศรีรัตนไพรวันปรันตประเทศ เขตรอรัญวาสี ( บพิตร ) เมืองลพบุรีในพระบาฬีเรียกว่าเมืองสังฆปัต จึงตั้งสมเด็จเจ้าตั้งว่า พระสังฆราชา พระมณฑปแต่ในลานกว้าง ๓ ศอก คืบ ๔ เหลี่ยมจัตุรัส แต่พชนออกไปถึงผนัง ๕ ศอก ข้างพระบาทออกไปถึงผนังขวา ๖ ศอกคืบ ซ้าย ๖ ศอกคืบ พระบาทยาว ๓ ศอก ๑ ( ฉบับลบ ) ครั้งนั้นขุนเทพสุภาคน ๑ นายบุนนาคคน ๑ กับผู้มีชื่อ ๓ คนคบคิดกันเปนสมัคพรรคพวกพากันลงไปตีเกวียนชาวสัปรุษ ที่ทุ่งงิ้ว จับตัวได้ส่งไปชำระเปนสัตย์ ทรงเห็นว่าขุนเทพสุภากับผู้มีชื่อ ๓ คน ทำละเมิดพระราชกำหนดกฎหมายให้เปนเสี้ยนหนามกับพระสาสนา จึงสั่งให้ลงพระราชอาญาตามโทษานุโทษ แต่ขุนเทพสุภานั้น ทรงพระกรุณาโปรดให้ตัดตีนสินมือเสียจนสิ้นชีวิตร แต่นายบุนนาคกับผู้มีชื่อ ๓ คนนั้น ให้ตัดศีศะเสียบไว้ที่ตะพานบางโขมด