หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗) - ๒๔๖๐.pdf/89

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๗๙

ถ้าพระราชบิดาสวรรคตลงเมื่อไร พระมหาอุปราชคงจะจับเราฆ่าเสียเปนแม่นมั่น ด้วยมีสาเหตุอยู่แล้ว ถ้าเราขืนอยู่ในบังคับเขาไภยก็จะมาถึงตัวเราเปนแน่ เจ้าพี่น้องสององค์พร้อมใจกันจะคิดหนี ครั้นเวลากลางคืนดึกสองยามเศษ ปีนกำแพงพระนครหนีออกไปได้ ตรงไปหามิศเตอร์อะแยไบกงสุลอังกฤษ๗ พูดว่าข้า พเจ้าทั้งสองพี่น้องหนีไภยมาอาไศรยอยู่กับท่านด้วย ถ้าท่านไม่รับธุระช่วยชีวิตรข้าพเจ้าทั้งสองนี้แล้วคงตายเปนแน่ ข้าพเจ้าทั้งสองหาความผิดมิได้เลย พระมหาอุปราชจะจับข้าพเจ้าฆ่าเสียโดยไม่มีผิด ฝ่ายมิศเตอร์อะแยไบกงสุลอังกฤษก็สงสารจึงรับเจ้าทั้งสองไว้ เมื่อวันก่อนที่เจ้าพี่น้องทั้งสองยังไม่หนีนั้น กิววะเมนยีที่เจ้าพระยากลาโหมกราบทูลพระมหาอุปราชว่า บัดนี้พระราชบิดาทรงพระประชวรหนัก ฝ่ายพระเจ้าน้องยาเธอของพระองค์ที่เปนชายนั้นมีถึง ๓๐ พระองค์ มีกำลังผู้คนมากทั้ง ๓๐ พระองค์ ต่างองค์ก็ต่างจะปราถนาเอาราชสมบัติ ถ้าเกิดลุกลามขึ้นจะระงับดับยากเหมือนหนึ่งดูหมิ่นพระยาพยัคฆราช ฤๅไม่เช่นนั้นเหมือนต้นไม้ ถ้าทิ้งไว้ให้ใหญ่รากก็จะหยั่งลงฦก ครั้นจะถอนก็ถอนยาก ถ้า

๗ ที่เรียก มิศเตอร์ อะแยไบ ตรงนี้เปนชื่อตำแหน่งที่พม่าเรียกมิใช่ชื่อตัว แลมิใช่กงสุล อังกฤษเรียกว่าเรสิเดนต์ เปนตำแหน่งตั้งประจำเมืองประเทศราช ผู้ที่เปนเรสิเดนต์อังกฤษอยู่ในเวลานั้นชื่อ นายชอ