ได้ ให้คุมเชิงไว้ อยู่ประมาณสามเดือนเศษ มางนันทมิตรคิดกันกับผู้คุมเชิงซ่องมอญได้สองพันเศษ เข้ากันกับพรรคพวกชายหญิงเปนคนห้าพัน ๚
๏ลุศักราช ๑๐๒๓ ปีศก มางนันทมิตรยกครอบครัวอพยพมาสู่พระบรมโพธิสมภารโดยทางเมืองกำแพงเพ็ชร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสให้รับมาตั้งอยู่ตำบลไทยใหญ่ ครั้นณวัน ๙ฯ ๓ ค่ำ เสด็จทรงพระที่นั่งสุวรรณปฤษฎางค์ออกจับช้างกลางแปลงณเพนียด แล้วเสด็จออกณพระที่นั่งมรฎป ให้หามางนันทมิตรมาเฝ้า ตรัสถามว่า เปนอะไรกันกับพระเจ้าอังวะ มางนันทมิตรบังคมทูลว่า เปนอาว์พระเจ้าอังวะ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสถามว่า พระเจ้าอังวะหาตั้งไว้ในตระกูลวงษ์ผู้ใหญ่หาไม่ฤๅ มางนันทมิดกราบทูลว่า ตั้งไว้ในที่ผู้ใหญ่อยู่ แต่มีความพิโรธกัน เพราะเหตุว่าพระเจ้าอังวะมิได้ตั้งในพระธรรมสามน (ธรรมสาตร) ราชสาตร แลแจ้งกิติศัพท์ขึ้นไปว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฝ่ายตวันออกมีกฤษฎาภินิหารบารมีใหญ่หลวง ดำรงทศพิธราชธรรมเปนนิตยกาล ไพร่ฟ้าอาณาจักรแลนานาประเทศซึ่งขึ้นขอบขัณฑเสมานั้นก็อยู่เย็นเปนศุข ดังร่มรุกขสุวรรณมหาโพธิอันใหญ่ ข้าพระพุทธเจ้ามีความยินดี จึงอุสาหะเอากะเฬวระมาฝากไว้ใต้ฝ่าพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคแก่มางนันทมิตรเปนอันมาก ๚