หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/105

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๘๔

บ้านเมืองก็ให้ฆ่าสัตว์ที่เปนอาหารเส้นศพส่งไปเหมือนกัน แล้ว ดึกเทื้องจะอวยพรลงมาให้ผู้ที่ครองเมืองนั้นเจริญศุขยืนนาน แลเมื่อบุตรหลานจะทำการฝังศพดึกเทื้องนั้น หัวเมืองซึ่ง ขึ้นแก่เมืองแถงก็เข้ามาพร้อมกันช่วยทำการฝังศพ ครั้นแล้วจึงฆ่า กระบือ แพะ สุกร เป็ด ไก่ เส้นคำนับศพส่งไปให้ดึกเทื้อง ครั้น แล้วบุตรหลานศรีนรคุตซึ่งอยู่ในเมืองแถงนี้ ได้ครอบครองค่าย เชียงแลต่อไป มีนามว่าเจ้าฟ้าลูกกุน ได้ฆ่าสัตว์ทำการเส้นศพ ดึกเทื้องเหมือนดังกล่าวมาแล้ว ตั้งแต่นั้นมาผู้ใดได้เข้ามารักษา บ้านเมือง ต้องฆ่าสัตว์ทำการเส้นศพดึกเทื้องเสียก่อน ด้วยถือเข้าใจ กันว่า ดึกเทื้องสิ้นชีพแล้วไปอยู่กับหมู่ผีฟ้าบนสวรรค์แม่นแท้ถ้าใคร ได้ทำการเส้นศพดึกเทื้องตามคำสั่งของดึกเทื้องแล้ว ดึกเทื้องคงจะ อวยพรให้ครองเมืองเปนศุขยืนนาน เจ้าเมืองกรมการแลราษฎร ในพื้นเมืองแถง จึงได้นับถือเส้นศพดึกเทื้องมาจนทุกวันนี้ ครั้น เจ้าฟ้าลูกกุนถึงแก่กรรมแล้ว บุตรหลานล้านเจืองซึ่งอยู่เมืองลอ ได้มาครอบครองบ้านเมืองแทน มีนามว่าเทียนต้า เจ้าแกวตั้งขึ้นมา เทียนต้าว่าราชการอยู่ได้ ๓ ปี แล้วกลับลงไปยังบ้านเมือง เจ้าแกวจึงตั้งบานบ๊านขึ้นมาครองเมืองอยู่ที่ค่ายเชียงแลได้ ๓ ปี ก็ถอยกลับไปเมืองแกว ครั้งนี้เจ้านครหลวงพระบางตั้งให้กายเจ้าบาง เปน คนผู้ไทยอยู่เมืองฮุง มาเปนเจ้าเมืองแถงอยู่ที่ค่ายเชียงแล ว่า ราชการเมืองอยู่ได้ ๔ ปี กายเจ้าบางรับเอาช้างที่เมืองหลวงพระบาง ไปให้เจ้าแกว กายเจ้าบางก็ไปถึงแก่กรรมเสียที่เมืองแกว เจ้าแกว