ในระยะเวลาต่อมา ๘ ปี ระหว่างนี้ ทั้งจีนแลญวนยกกองทัพสมทบกันไปรบฮ่อที่เมืองชันเทียน คราวนี้ ตีเมืองได้ แลฆ่าปวงนันซี ผู้เปนหัวน่า ตาย พวกฮ่อที่เปนสมัคพรรคพวกไม่มีนายใหญ่ควบคุมดังแต่ก่อน ก็แยกกันออกเปนหลายพวกหลายเหล่า บางพวกไปตั้งทำมาหากินแลยอมเสียส่วยให้เจ้าบ้านผ่านเมืองอย่างราษฎร บางพวกประพฤติเปนโจรผู้ร้ายเที่ยวปล้นสดมหาเลี้ยงชีพ บางพวกที่มีกำลังมากก็ใช้กำลังเที่ยวขู่กรรโชกฤๅรบพุ่งตามหัวเมืองที่มีกำลังน้อย แล้วแต่จะมีโอกาศหาผลประโยชน์เลี้ยงชีพได้ด้วยประการอย่างใด จึงมีฮ่อเที่ยวกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในแว่นแคว้นสิบสองจุไทย พวกเจ้าเมืองเหล่านั้นกำลังน้อย ก็เข้าเปนสมัคพรรคพวกกับฮ่อโดยมาก บางทีถึงอาไศรยจ้างวานฮ่อเปนกำลังรบพุ่งกันเองบ้างก็มี
ถึงปีมแม พ.ศ. ๒๔๒๖ ฮ่อพวก ๑ ยกกองทัพกลับลงมาตั้งค่ายมั่นที่ทุ่งเชียงคำในแขวงเมืองพวน แล้วเที่ยวตีหัวเมืองขึ้นเมืองหลวงพระบางเข้ามาทางเขตรหัวพันทั้งหกอิก จึงโปรดให้พระยาพิไชย (มิ่ง) กับพระยารณไชยชาญยุทธ (ครุธ) แต่ยังเปนพระยาศุโขไทย คุมกองทัพหัวเมืองเหนือขึ้นไปก่อน แลให้เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช (เวก บุณยรัตพันธุ์) เวลานั้น ได้เลื่อนที่เป็นพระยาราชวรานุกุล เปนแม่ทัพ ยกตามขึ้นไปทางเมืองหลวงพระบางทาง ๑ แลเตรียมกองทัพใหญ่ไว้ ถ้าราชการหนักแน่นประการใด จะโปรดให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ ซึ่งทรงสำเร็จราชการกระทรวง