หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/134

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑๓

หญิง ๑ นางขันคำ ภรรยามหาขนานเมืองเชียงตุง มีบุตรชื่อ ทิปนีคำ ๑ ชื่อ กองไต ๑ รวม ๒ คน นางจามคำ ภรรยาเจ้าเมืองหลอย ไม่มีบุตร ครั้นอยู่มา ฟ้าเมา น้องเจ้าเมืองเชียงแขงเถ้า วิวาทกัน ฟ้าเมาพาครอบครัวลงมาพึ่งเมืองน่าน เพราะมารดาเจ้านครเมืองน่านเปนเชื้อสายเมืองเชียงแขง นับถือกันว่า เปนพี่น้องกัน ฟ้าเมาถึงแก่กรรมที่เมืองน่าน ภายหลัง เจ้าเมืองเชียงแขงเถ้า กับอุปราชเมืองเชียงแขง ถึงแก่กรรม เมืองเชียงแขงว่างเปล่าอยู่

ศักราช ๑๒๒๐ ท้าวพระยาเมืองเชียงแขงขอทิปนีคำ บุตรมหาขนานเมืองเชียงตุง มาว่าราชการเมืองเชียงแขง ๒ ปี ลงไปรับตำแหน่งที่เจ้าเมืองเชียงแขงที่เมืองอังวะ กลับมาถึงเมืองนาย ถึงแก่กรรม ท้าวพระยาเมืองเชียงแขงจึงขอกองไต บุตรมหาขนานเมืองเชียงตุง มาเปนเจ้าเมืองเชียงแขงเมื่อศักราช ๑๒๒๒ หม่อมสลิ บุตรเจ้าเมืองเชียงแขงเถ้า ได้เปนอุปราช เจ้าเมืองเชียงแขงว่าราชการเมืองได้ ๑๕ ปี มีบุตรชายชื่อ เสือ ๑ ก้อนแก้ว ๑ หญิง ๔ รวม ๖ คน ครั้นมหาขนานเมืองเชียงตุงถึงแก่กรรม เจ้าเมืองเชียงแขงกองไตได้เปนเจ้าเมืองเชียงตุง อุปราชเมืองเชียงแขงได้เปนเจ้าเมืองเชียงแขง อายุได้ ๑๙ ปี เจ้าเมืองอังวะตั้งนามว่า หม่อมมหาศรีสัพเพชังกูรพุทธพรหมวงษาเจ้าเมืองเชียงแขง มีเมืองขึ้น เมืองยุ ๑ เมืองอะ ๑ เมืองโหลย ๑ เมืองและ ๑ เมืองขัน ๑ รวม ๕ เมือง

๑๕