ของผู้ใด แต่ที่ดินนับว่าร่วมอยู่ในกงดินเปนของเมืองหลวงพระบาง ตามแจ้งอยู่ในหลักคำนั้น แต่คนที่มาตั้งเปนเดิมคงจะเปนจีนเปนแน่ ครั้นภายหลังเมืองหลวงพระบางได้ทราบก็มิได้ว่าประการใด ด้วย บูชาจีนอยู่ด้วย คงจะเห็นว่าเปนการดีด้วยที่เปล่า ๆ อยู่ ฝ่ายหัวน่าจีนเดิมที่มาตั้งนั้น เมื่ออยู่นานได้ทราบเบาะแสว่าเปนตำบลต่อติดทั้งลาวทั้งจีนแลญวน เห็นว่าเปนเมืองใหญ่ แลเมืองทั้ง ๓ ก็นับถือไป มาหากัน ในเวลานั้นก็มิได้เปนศัตรูต่อกัน ความรู้มากหวงกัน ที่ดินซึ่งจะล่วงล้ำเขตรแขวงก็ไม่รังเกียจแก่กันด้วยที่ดินนั้น ย่อม ผันผ่อนอ่อนหาตามกำลังบ้านเมืองของตน แต่ในเวลานั้นเมืองลาวเมืองจีนแลเมืองญวนก็คงเปนมีอำนาจกว่าพวกที่มาตั้งอยู่นั้น เมืองใดขึ้นลงไปมาฤๅจะเกี่ยวการในตำบลนั้นก็ได้ทั้ง ๓ ฝ่าย ไม่ว่ากล่าวกัน แต่ฝ่ายลาวอยู่ข้างจะอ่อนกำลังกว่า แต่เปนเจ้าของที่ตำบลนั้นเปนแน่ แต่จะหลายร้อยปีมาแล้ว การเดิมคงจะเปนดังนี้ ดังนั้นหัวน่าจีนที่มา ตั้งในตำบลนั้นจะทราบการถนัด ทั้งเขตรแขวงก็ต่อติดมีทางทั้ง ๓ เมือง ครั้นเมื่อตั้งรกรากลงแล้ว จีนก็ระคนกับผู้ไทยเดิมในตำบลนั้น คงจะ คิดหาความศุขที่จะรักษาพรรคพวก จึงเข้าหาทั้ง ๓ เมือง ยกตัว ขึ้นว่าเปนเมือง ๓ ฝ่ายฟ้า เพื่อจะไม่ให้มีความเดือดร้อนถึงเท่านั้น เดิมคงจะเปนมาดังนี้ จริงอยู่ซึ่งจะเปนดังนี้แน่ แต่ถึงกระนั้นก็เพราะด้วยตำบลนั้น ไม่เปนถิ่นที่อุดมเลย ความที่ตำบลไม่อุดมนั้น จึงทำให้เมืองใหญ่ ซึ่งมีอำนาจเปนชั้นทั้ง ๓ เมือง เห็นชอบยินยอมพร้อมให้ตำบลนั้น
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/51
หน้าตา