หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/53

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๒

ในเรื่องราวนั้นมีขุนนางจีนคน ๑ เปนแซ่ฬ่อ เรียกว่าฬ่อตายันอยู่ในเมืองลิมเจา ๆ นั้นเปนหัวเมืองขึ้นของเมืองจีน อยู่ใกล้กับเมืองกวางตุ้ง ฬ่อตายันผู้นี้ไม่สมัคยอมอยู่ในอำนาจตาด จึงเกลี้ยกล่อม ชักชวนญาติพี่น้องที่ร่วมแซ่แลต่างแซ่พร้อมใจกัน อพยพครอบครัวบ่าวไพร่ประมาณ ๑๐๐๐ คนเศษออกจากเมืองลิมเจา มาตั้งอาไศรย อยู่ที่ตำบลแห่ง ๑ ใกล้ฝั่งน้ำแท้ เปนแดนดินลาวอยู่ในอาณาเขตร สยามแลเขตร จีนต่อกัน แต่ที่ตำบลซึ่งตั้งอยู่ในเวลานั้นเปนแต่ที่ ทำเลว่างพอจะตั้งอยู่ได้ มีแต่พวกข่าก้ออยู่อาไศรย ยังหาได้เรียกว่า เปนบ้านเมืองไม่ พวกจีนก็ขับไล่พวกข่าก้อให้ออกไปตั้งอยู่ตามป่า ตามเขาห่างที่นั้นออกไป แล้วพวกจีนก็ปันน่าทีช่วยกันปราบถางที่ทางลงตั้งเปนบ้านอาไศรยอยู่ในที่นั้นต่อมา ครั้นภายหลังพวกผู้ไทยขาว ผู้ไทยดำอยู่ในแดนดินสิบสองจุไทยใกล้เคียงที่นั้นก็มาอยู่ปะปนกันกับพวกจีนบ้าง จึงพากันเรียกตำบลบ้านนั้นว่าเมืองไล่ เปนภาษาผู้ ไทยขาว อาไศรยเหตุซึ่งพวกจีนมาขับไล่พวกข่าก้อให้ไปอยู่เสีย ที่อื่น เอาตำบลนั้นตั้งเปนบ้านเมืองของตัวอยู่ได้สืบมา ครั้นภายหลังคำคนที่เรียกเมืองไล่นั้นก็เพี้ยน ๆ เสียงไปว่าเมืองไลมาจนเท่าบัดนี้ แลพวกจีนมาตั้งอยู่เมืองไลแต่เดิมนั้น ก็ไว้ผมมวยเหมือน พวกจีนแต่โบราณ หาได้ควั่นเปนผมเปียเหมือนอย่างจีนทุกวันนี้ไม่ พวกจีนที่ไว้ผมเปียนั้นถือตามธรรมเนียมพวกตาด เพราะฉนี้พวกจีนเมืองไลทั้งหญิงทั้งชายก็ไว้ผมมวยตามธรรมเนียมจีนเดิมสืบๆ กันมา จนทุกวันนี้