หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/64

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๔๓

ช่วยราชการคนละฝ่าย ให้คำโหมช่วยราชการฝ่ายเมืองจีน ให้ คำสามช่วยราชการฝ่ายเมืองญวนให้คำล่าช่วยราชการฝ่ายเมืองลาว ถ้าฝ่ายใดมีราชการแลคำสั่งประการใดไปถึงเจ้าเมืองไล ก็ทำ ตามสั่งในฝ่ายนั้นให้สำเร็จข้อราชการมิได้ขัดขวาง ธรรมเนียมเจ้าเมืองไลเก็บส่วยแก่ราษฎรนั้น เก็บตามหลังคาเรือนเหมือนธรรมเนียมเมืองหลวงพระบางเก็บส่วยแก่พวกข่าแจะฉนั้นเรือนหลัง ๑ มีคนแต่สองผัวเมียไม่เก็บ ถ้ามีชายตั้งแต่ ๒ คน แลมีภรรยาแล้วทั้ง ๒ คนจึงเก็บส่วย ๒ คน เปนเงิน ๕ สลึง ถ้าชายโสด ยังไม่มีภรรยาแลชายหม้ายภรรยาตายก็ไม่เก็บส่วย ถ้าเรือน ๑ มีคู่ผัวเมียอยู่ด้วยกันหลายครอบครัวก็เก็บส่วยรวมเปนเงิน ๕ บาท เท่านั้นเปนอย่างที่สุด จะเก็บส่วยมากกว่านี้ขึ้นไปอิกไม่มี ธรรมเนียมเก็บค่านานั้น ถ้าราษฎรทำนาในเนื้อที่เปนของสำหรับเมืองสืบมาแต่เดิม ก็เก็บตามจำนวนเข้าที่ราษฎรทำได้มาก แลน้อย กำหนดพันถัง คือ ๑๐ เกวียน เปนเงิน ๑๕ บาท สองพันถัง คือ ๒๐ เกวียน เปนเงิน ๓๐ บาท ถ้าราษฎรทำได้เข้ามากหลายพันถังขึ้นไปจนถึงหมื่นถังฤๅแสนถังก็ดี ก็เก็บเพียง ๓๐ บาทเปนที่สุดเท่านั้น ถ้าชาวนามีเพียรจะโก่นสร้างป่าดอน ทำที่นาต่อออกไปอิกมากน้อย เท่าใดก็มิได้ห้าม แลจะทำเข้าในที่เนื้อนาของตัวได้มากน้อยเท่าใด ก็มิได้เก็บค่านาเลย