หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/8

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
(๗)

แล้วกำเริบเอิบเอื้อมต่อเข้ามาจนถึงเมืองเวียงจันท์ ญวนอุดหนุนให้อนุเจ้านครเวียงจันท์เปนขบถเมื่อในรัชกาลที่ ๓ ไทยจึงเกิดรบขึ้นกับญวน ในการสงครามคราวนั้น กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงห์เสนี) ขึ้นไปถึงเมืองพวน ขับไล่ญวนออกไปได้หมด เมื่อปราบปรามขบถเวียงจันท์ราบคาบแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เลิกประเทศราชเวียงจันท์เสีย ให้เมืองหลวงพระบางว่ากล่าวทั้งสิบสองจุไทยแลเมืองพวน อำนาจการปกครองหัวเมืองเหล่านั้นก็ยิ่งอ่อนแอลง เมืองพวนอยู่ใกล้แดนญวน แลไปมาค้าขายถึงกันอยู่เสมอ ต่อมา เมื่อบ้านเมืองเปนปรกติ พวกท้าวพระยาเมืองพวนก็ไปสมัคสมานเข้ากับญวนอิก แต่ไม่ปรากฎมีเหตุการณ์สำคัญอันใดตลอดเวลาราว ๓๐ ปี จึงมาเกิดเหตุเรื่องฮ่อ

แต่ก่อนมา เรามักเข้าใจกันว่า "ฮ่อ" เปนชนชาติหนึ่งต่างหาก ข้าพเจ้ายังจำได้ เมื่อครั้งทัพฮ่อคราวแรกในรัชกาลที่ ๕ กองทัพพระยามหาอำมาตย์ (ชื่น กัลยาณมิตร) จับได้ฮ่อส่งลงมากรุงเทพ ฯ มีคนกระซิบกันว่า ไปจับเอาเจ๊กมาลวงว่า เปนฮ่อ ด้วยไม่รู้ว่า ที่จริง ฮ่อมันก็เจ็กนั่นเอง พวกไทยทางข้างเหนือทั้งเชียงใหม่แลหลวงพระบางเขาเรียกบรรดาจีนที่มาฮุนหนำว่า "ฮ่อ" เราสำคัญเอาแต่คำที่เขาเรียก จึงเข้าใจไปว่า เปนชนชาติอื่นต่างหาก

เรื่องประวัติของพวกฮ่อที่เข้ามาวุ่นวายในพระราชอาณาเขตร ข้าพเจ้าได้พบในหนังสือ ๒ ฉบับ คือ คำให้การของหลีมังคัง ทหารฮ่อ ซึ่งทัพพระยามหาอำมาตย์จับได้ส่งตัวลงมา สมเด็จเจ้าพระยา