จัดทางแลมิได้มารับบิดาข้าพเจ้าตามที่บิดาข้าพเจ้าสั่งไปแต่ก่อน ครั้นบิดาข้าพเจ้ายกไปใกล้จะถึงเมืองแถง พวกกรมการเมืองแถง ประมาณ ๕-๖ คนพาบ่าวไพร่ออกมารับบิดาข้าพเจ้า ๆ จึงถามว่ากายโตงไปแห่งใดจึงไม่ออกมารับ พวกกรมการบอกว่ากายโตงคอยรับอยู่ที่ บ้านในเมือง บิดาข้าพเจ้าก็ยกเข้าไปในเมืองแถง จึงให้คนไปหาตัว กายโตงก็หาพบไม่ ๆ รู้ว่ากายโตงหนีไปอยู่แห่งใด บิดาข้าพเจ้า รู้ว่ากายโตงหนีไปแล้วก็หาว่าประการใดไม่ บิดาข้าพเจ้าพักอยู่ดูแลรักษาเมืองแถงได้เดือน ๑ มีคนที่เมืองควายมาบอกแก่บิดาข้าพเจ้าว่ากายโตงหนีไปอยู่เมืองควาย บิดาข้าพเจ้าจึงมีหนังสือไปถึงกายโตง ให้มาหา กายโตงก็หามาหาบิดาข้าพเจ้าไม่ ครั้นณเดือน ๔ ปีเดียวกัน กายโตงกับเจิงทง ท้าวควาย ไปร่วมคิดกัน รวบรวมคนฮ่อได้ประมาณ ๒๐๐ คนยกมาตีเมืองแถง ครั้นถึงเมืองฝั่ง ยังอิกทาง ๓ ชั่วโมงจะถึงเมืองแถง กายโตงจึงมี หนังสือมาถึงบิดาข้าพเจ้าให้ออกไปรับที่เมืองฝั่ง กายโตงจะกลับมา อยู่กับบิดาข้าพเจ้า ๆ จึงให้คำกุ้ยผู้พี่ข้าพเจ้าคุมคน ๒๐ คน ออกไปรับกายโตงที่ตำบลบ้านหินดำ พอกายโตงยกมาแลเห็นคำกุ้ยกับบ่าว ไพร่ออกไป ห่างกันประมาณ ๒ เส้น กายโตงจึงเรียกให้คำกุ้ย ไปรับหนังสือ คำกุ้ยให้คนใช้วิ่งไปรับ พอคนใช้เดินใกล้เข้าไป ประมาณ ๕ วา ๖ วา พวกฮ่อกับกายโตงก็เอาปืนยิงถูกคนใช้ชื่อ โป๑ กัน ๑ ทั้ง ๒ คน แต่หาถึงเปนอันตรายไม่ คำกุ้ยรู้ว่า กายโตงเปนขบถต่อบิดาแน่แล้ว จึงเร่งบ่าวไพร่ใหัยิงปืนต่อรบกัน
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/91
หน้าตา