ฝ่ายบิดาข้าพเจ้าอยู่ในเมืองแถงได้ยินเสียงปืนยิงอยู่หลายนัดดังนั้นก็แปลกใจ จึงให้คำฮุยกับกรมการคน ๑ คุมคน ๔๐ เศษ ยกออกไปดู ถ้าเห็นคำกุ้ยรบอยู่กับพวกใด ก็ให้เข้าช่วยคำกุ้ยรบ คำฮุยยกออกไปเห็นคำกุ้ยรบอยู่กับพวกกายโตงแลท้าวควาย ก็เร่ง บ่าวไพร่เข้าช่วยรบอยู่จนเวลาจวนค่ำ กายโตงกับท้าวควายสู้ไม่ได้ เสียทีแตกหนี กายโตงหนีไปทางเมืองโพนไทรซึ่งขึ้นกับเมือง หลวงพระบาง ท้าวควายพาบ่าวไพร่หนีไปทางเมืองควาย ในเวลา ที่คำกุ้ยคำฮุยรบกันกับกายโตงแลท้าวควายนี้ ท้าวนรสิงห์กับตาแสงเมืองขวา แสนกวานเมืองลา ๓ คนนี้ซึ่งเจ้านครหลวงพระบางแต่ง ให้ขึ้นไปหาตัวบิดาข้าพเจ้า ยังพักอยู่กับบิดาข้าพเจ้าที่เมืองแถง ได้รู้ข้อความนี้ตลอด แล้วบิดาข้าพเจ้าจึงแต่งหนังสือให้กรมการ เมืองไล ๓ นาย ถือหนังสือลงไปถวายเจ้านครหลวงพระบาง กับม้า ผู้ ๒ ม้า พร้อมกันกับท้าวนรสิงห์ แลตาแสงเมืองขวา แสนกวาน เมืองลา ข้าหลวงซึ่งขึ้นไปนั้น ใจความในหนังสือนั้นว่า บิดาข้าพเจ้ายังติดด้วยจัดการ บ้านเมืองไม่เรียบร้อย เมื่อการบ้านเมืองปรกติเรียบร้อยแล้ว บิดาข้าพเจ้าจะลงไปเฝ้าเจ้านครหลวงพระบาง แลบอกลงไปว่ากายโตง เปนขบถต่อบิดาข้าพเจ้า บัดนี้หนีลงไปอยู่เมืองโพนไทรหัวเมือง ขึ้นของเมืองหลวงพระบาง กรมการ ๓ นายถือหนังสือแลคุมม้าลงมา ถึงเมืองงอย ในเวลานั้นพระยาพิไชย (มิ่ง) กับเจ้าราชวงษ์เมือง หลวงพระบางยกกองทัพขึ้นไปเมืองงอย จะไปรบพวกฮ่อทุ่ง
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/92
หน้าตา