หน้า:ประวัติฯ ศรีสุริยวงศฯ - ดำรง - ๒๔๗๒.pdf/12

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

เป็นผู้ช่วยอย่างกับมือขวาบิดาของท่านในการทั้งปวง[1] จึงเป็นโอกาสที่ได้แสดงคุณวุฒิให้ปรากฏ จะนำเรื่องมาสาธกพอเป็นอุทาหรณ์ ดั่งเช่นเมื่อบิดาของท่านลงไปสร้างเมืองจันทบุรี ตัวท่านเองรับต่อเรือกำปั่นรบ คิดพยายามทำเรือกำปั่นอย่างฝรั่งได้ แล้วพากำปั่นบริค[2] ลำแรกเข้ามาถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๘ โปรดพระราชทานชื่อว่า "เรือแกล้วกลางสมุท" (แต่มีชื่อเรียกอย่างฝรั่งอีกชื่อหนึ่งว่า "เรืออาเรียล")

มีจดหมายเหตุของพวกมิชชันนารีอเมริกันแต่งพิมพ์ไว้ในหนังสือบางกอกริคอเดอรว่าด้วยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศเมื่อยังเป็นหลวงนายสิทธิ์ร่วมเวลาเมื่อพาเรือกำปั่นลำนั้นเข้ามาถวาย ได้คัดคำแปลมาลงไว้ต่อไปนี้[3]

"วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๗๘

"วันนี้มีขุนนางไทยหนุ่มคนหนึ่งมาหาพวกมิชชันนารี ขุนนางหนุ่มผู้นี้ท่าทางคมชำ เฉียบแหลม พูดจาไพเราะ เมื่อแรกมาถึง ได้สนทนากับพวกมิชชันนารีอยู่สักพักหนึ่ง ครั้นจวนจะกลับ จึงได้สนทนากับยอนแบบติสต์ ผู้ช่วยในร้านขายยา ตอนที่คุยกับยอนแบบติสต์นี้เอง ขุนนางหนุ่มคนนั้นได้บอกว่า ตัวท่านคือหลวงนายสิทธิ์ (คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรี


  1. บุตรสมเด็จเจ้าพระยามหาประยุรวงศก็ได้เป็นกำลังช่วยบิดาอีกคนหนึ่งในครั้งนั้น คือ เจ้าพระยาทิพากรวงศ (ขำ บุนนาค) ต่อมาในรัชชกาลที่ ๓ ได้เป็นที่จมื่นราชามาตย์ในกรมตำรวจ.
  2. เป็นเรือชะนิดใช้ใบ เหลี่ยมทั้งเสาหน้าเสาท้าย.
  3. ขุนภิบาลบุรีภัณฑ์ (ป่วน อินทุวงศ เปรียญ) เป็นผู้แปล